รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก ไทยรู้สู้โควิด ระบุว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 11 -17 ธันวาคม 2565ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์)จำนวน 3,419 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 488 ราย/วันผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์)จำนวน 113 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 16 ราย/วัน หายป่วยสะสม 2,495,473 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)เสียชีวิตสะสม 11,807 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
- หมอปลา งานเข้าโดน หมายเรียกข้อหายาเสพติด ถกสนั่นกลางรายการ ผู้กำกับแจงแล้วแบบนี้
- สาวแชร์ประสบการณ์ เจอผลของหมูกระทะช่างกิโล ผื่นแดงขึ้นทั้งตัว เกือบขิต!
- สาวๆต้องรู้! วิธีเอาตัวรอดจากการโดน “มอมยา” ใจล่มๆอย่างกระดกพรวดๆ
ล่าสุดทางด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดโอมิครอน ผ่านทางเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า Gerstung M จากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมัน สรุปลักษณะการระบาดในปัจจุบันทั่วโลก ยืนยันให้เห็นปรากฏการณ์”ซุปสายพันธุ์ (variant soup)” ซึ่งถือเป็นระลอกที่มีการระบาดโดยมีหลากหลายสายพันธุ์ของไวรัส แตกต่างจากระลอกก่อนๆ ที่มักมีตัวหลักที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมจากอู่ฮั่น D614G อัลฟ่า เดลต้า BA.1/2 และ BA.5
ขณะนี้ Omicron มีการกลายพันธุ์ไปกว่า 500 สายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มระบาดจริงจังในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเท่านั้นซุปสายพันธุ์ถ้วยนี้ หากวิเคราะห์ดูจะพบว่ามีไวรัสสายพันธุ์ย่อยที่แย่งกันระบาดทั่วโลก โดยมีตัวนำอยู่ประมาณ 3 ก๊กที่ดูจะไม่ค่อยน้อยหน้ากว่ากันนัก ได้แก่ BQ.1.x, XBB.x, และ BA.2.75.x
- BQ.1.x ครองฝั่งตะวันตกของโลกXBB.x ครองฝั่งตะวันออกของโลก
- BA.2.75.x มีชุกชุมอยู่ในหลากหลายประเทศ ค่อนข้างกระจายโดยที่สายพันธุ์ที่ครองการระบาดเดิมอย่าง
- BA.5 ถูกเบียดลดสัดส่วนลงไปอย่างต่อเนื่อง
…อย่างไรก็ตาม หากดูอัตราการขยายตัวของการระบาด BQ.1.1 คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เกิดการระบาดวงกว้างมากขึ้นในฝั่งตะวันออกของโลกได้ในอีกไม่นาน
“Omicron นั้นไม่ได้อ่อนกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม”
หลายคนคงคุ้นเคยกับวาทกรรมว่า Omicron is mild จนทำให้เข้าใจว่าเป็นหวัดธรรมดา หรือกระจอกแต่รอบปีที่ผ่านมา เราเห็นกันชัดเจนว่าสายพันธุ์นี้ แม้จะทำให้โอกาสป่วยรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า แต่ก็มีคนติดเชื้อจำนวนมาก ป่วยและตายจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากมีสมรรถนะที่แพร่ได้เร็วขึ้นง่ายขึ้นมาก และดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าเดิม
ล่าสุด Robinson ML และทีมงานจากสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลการวิจัยประเมินอัตราป่วยรุนแรงและเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 แล้วต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 5 แห่งในฝั่งตะวันออกของประเทศ
เปรียบเทียบระหว่างสายพันธุ์ดั้งเดิม เดลต้า และ Omicron
สาระสำคัญคือ พบว่าในกลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้น แม้ Omicron จะทำให้ป่วยรุนแรงและเสียชีวิตน้อยกว่าเดลต้าราว 28% แต่มีอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตพอๆ กับสายพันธุ์ดั้งเดิมส่วนคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว หากป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะลดลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดก็ตาม
…ผลการศึกษานี้จึงช่วยชี้ให้เราเห็นว่า Omicron นั้นแม้จะดูอ่อนกว่าเดลต้า แต่ความรุนแรงพอๆ กับสายพันธุ์ดั้งเดิม ไม่กระจอกการฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด จะช่วยลดการป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดเสี่ยง Long COVID ได้ด้วยดังที่เคยนำเสนอข้อมูลวิชาการมาให้ทราบมาหลายครั้งแล้ว…ปัจจุบันไทยยังมีการติดเชื้อแต่ละวันจำนวนมาก ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาทการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY