วันที่ 19 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพและคลิปวีดีโอ เป็นภาพชายใส่เสื้อแขนยาวสีเขียว กางเกงขายาว ใส่หมวก กำลังยืนโต้เถียงกับเจ้าของรถคันหนึ่ง และได้มีการใช้มือผลักที่หน้าอกกันไปมา จนเจ้าของร้านต้องออกมาห้าม ก่อนที่ชายรับฝากรถชักปืนพก ไม่ทราบขนาด ที่พกไว้ที่เอว ออกมาข่มขู่เจ้าของรถคันคนดังกล่าว ซึ่งมาจอดที่หน้าร้านค้าเพื่อมาซื้อของ ซึ่งเป็นร้านค้าประจำ โดยไม่ยอมเสียเงินค่าฝากรถ เหตุเกิดที่บริเวณร้านค้าตลาดเกษม ต.ซับสมทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมระบุข้อความว่า
“ตลาดบึงสามพันเริ่มอยู่ยาก ไปซื้อของที่ตลาดนัดคลองถม ชายใส่เสื้อสีเขียวไม่พอใจมาด่าแถมชักปืนขู่ เดี๋ยวกูจะยิงให้ใส้แตก”
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนมาซื้อของที่ร้านค้าแห่งนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดปัญหาในลักษณะนี้มาก่อน ตนเข้าใจดีว่าทุกวันศุกร์ ที่มีตลาดนัด ตลาดจะมีการขึงเชือกเก็บค่าจอดรถ ซึ่งเรื่องนี้ตนเข้าใจดี แต่ร้านที่ตนซื้อของ กับตรงที่เก็บเงินค่าฝากรถมันคนละส่วนกัน ร้านที่ตนซื้อของไม่ต้องจ่ายค่าที่จอดรถ ตนจึงขับรถเข้ามาตามปกติเช่นเคย แล้วจู่ๆ เขาก็กระโดดออกมาขวางรถ ทำให้ตนต้องเบรกกะทันหัน พอตนลดกระจกลง เขาก็ถามว่าจะไปไหน ตนก็ตอบว่าจะไปซื้อของครับ เขาก็ถามซ้ำๆ ว่า จะไปไหน ตนจึงตะคอกไปว่า จะมาซื้อของ เขาก็หลบ ตนจึงวนไปจอดรถ เขาก็ตามไปด่าถึงบุพการี ตนโมโหก็เลยผลักอกเขาไป เขาก็ควักปืนออกมาบอกว่า เดี๋ยวกูยิงไส้แตก พอดีแฟนตนและเจ้าของร้าน เข้ามาห้ามไว้
สำหรับค่าฝากรถแค่ 20 บาท ก็ไม่น่าใช้อาวุธปืนออกมาข่มขู่แบบนี้ ซึ่งทำให้ตนรู้สึกตกใจและกลัวว่าจะเกิดอันตรายในภายหลัง จึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บึงสามพัน ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงไปยังพื้นที่ดังกล่าว เป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น สำหรับให้เช่าขายของ และทุกเย็นวันศุกร์ ฝั่งตรงข้ามอาคารจะเปิดเป็นตลาดนัดคลองถม ซึ่งทางตลาดได้ใช้บริเวณหน้าร้านค้าของอาคารดังกล่าว เป็นที่รับฝากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สำหรับผู้ที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อของ ซื้อกับข้าว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน สังคมจึงตั้งคำถามว่า คนรับฝากรถจำเป็นต้องพกปืนในที่สาธารณะแบบนี้ได้หรือ
ขณะที่ นายสงคราม ฤทธิ์เดช หรือ เผือก อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นคนที่เก็บเงินรับฝากรถยนต์ที่ชักปืนขู่ ได้เล่าว่า ตนมีหน้าที่เก็บเงินค่าที่จอดรถ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของเอกชน ตนจึงไปถามว่าจะไปไหน แต่เขาหาว่าตนไปขวางหน้ารถเขาและเดินมาผลักอกตน ตนจึงควักปืนปลอมออกมา แต่ก็ไม่ได้ชี้หน้าเขา จากนั้นแฟนเขากับเจ้าของร้านค้าก็ออกมาห้าม ตนก็เดินกลับมาเก็บเงินที่จอดรถ สาเหตุที่ควักปีนออกมา ก็เพื่อต้องการให้คู่กรณีหยุด เพราะคู่กรณีตัวใหญ่กว่าเกรงว่าตนจะถูกทำร้าย ส่วนปืนก็เป็นปืนปลอม เป็นปืนเด็กเล่นของลูกที่วางอยู่ท้ายรถ ตนจึงเก็บใส่กระเป๋ากางเกงมา
ด้าน พ.ต.ท.วิชาญ ศรีบรรเทา พนักงานสอบสวน คดีดังกล่าว กล่าวว่า คดีดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ใด เนื่องจากต้องรอผู้กล่าวหาที่มาแจ้งความ มาทำการสอบสวน พร้อมนำหลักฐาน ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอมามอบให้ ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสงคราม ฤทธิ์เดช หรือ เผือก ได้เดินทางมาให้ปากคำ พร้อมนำอาวุธปืนพกสั้น ซึ่งนายสงคราม ฤทธิ์เดช อ้างว่า เป็นปืนปลอมของลูกชาย มามอบให้ตำรวจไว้แล้ว ซึ่งก็ต้องหาหลักฐานว่า อาวุธปืนปลอมกระบอกดังกล่าว ใช่อาวุธปืนกระบอกเดียวกันที่อยู่ในคลิปวีดีโอกล้องวงจรปิด หรือไม่ และถ้าไม่ใช่อาวุธปืนที่อยู่ในคลิปวีดีโอดังกล่าว เป็นอาวุธปืนปลอม หรืออาวุธปืนจริงกันแน่