สื่อรายงาน 2 พี่น้องตระกูลเกลเซอร์ แสดงความมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาจะยังได้เป็นเจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการขายหุ้นส่วนน้อยเท่านั้น พร้อมเชื่อว่าสโมสรจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกิน 10,000 ล้านปอนด์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

โดย โจเอล และอัฟราม เกลเซอร์ 2 พี่น้องตระกูลเกลเซอร์ แลเะเจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประกาศหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ รวมถึงการขายสโมสร ซึ่งก็มีกลุ่มทุนที่ทั้งต้องขายซื้อขาดสโมสรเลย เช่น ชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี จากกาตาร์ และเซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ เป็นต้น รวมถึงกลุ่มทุนที่ต้องการซื้อหุ้นส่วนน้อย เช่น เอลเลียตต์ อินเวสต์เมนต์ เมเนจเมนต์ และเดอะ คาร์ไลล์ กรุ๊ป เป็นต้น

จนถึงปัจจุบัน แม้ 2 พี่น้องตระกูลเกลเซอร์ จะเปิดให้ยื่นประมูลในการซื้อสโมสรเป็นรอบที่ 3 แต่ “สกาย สปอร์ตส” ระบุว่า ครอบครัวนักธุรกิจจากอเมริกัน ได้มีการแอบคุยกับกลุ่มทุนเพื่อขายหุ้นส่วนน้อยอยู่ด้วย

จนล่าสุด “มาร์ก ออร์เดน” ผู้สื่อข่าวจาก “อีเอสพีเอ็น” เปิดเผยว่า 2 พี่น้องตระกูลเกลเซอร์ มีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาจะได้นั่งตำแหน่งเจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป หลังมีกลุ่มทุนอย่างน้อย 4 กลุ่มที่เตรียมเข้าซื้อหุ้นส่วนน้อย และเป็นข้อเสนอที่น่าพอใจจนไม่ต้องขายหุ้นส่วนใหญ่

นอกจากนั้น โจเอล และอัฟราม ยังเชื่อมั่นว่า ศักยภาพในการเติบโตตามธรรมชาติในช่วงหลายปีข้างหน้าจะทำให้มูลค่าของ “ปีศาจแดง” เพิ่มขึ้นเกิน 10,000 ล้านปอนด์ (ราว 4.26 แสนล้านบาท) เป็นอย่างน้อย หรือมากกว่าเดิมเท่าตัวในช่วง 10 ปีข้างหน้า