อยากอยู่ด้วยกันนานๆ แม่ยอมให้ อสม. มาฉีดวัคซีนลูกชายป่วยติดเตียง แค่ข้ามวันเสียชีวิต

Home » อยากอยู่ด้วยกันนานๆ แม่ยอมให้ อสม. มาฉีดวัคซีนลูกชายป่วยติดเตียง แค่ข้ามวันเสียชีวิต
อยากอยู่ด้วยกันนานๆ แม่ยอมให้ อสม. มาฉีดวัคซีนลูกชายป่วยติดเตียง แค่ข้ามวันเสียชีวิต

แม่ยอมให้ อสม. มาฉีดวัคซีนให้ลูกชายป่วยติดเตียง เพราะอยากให้ลูกปลอดภัยจากโควิดและอยู่ด้วยกันนานๆ แค่เพียงข้ามวันลูกกลับเสียชีวิต

(1 ต.ค.64) นางสังวาลย์ แล้วไสย์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านอุบล ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงการจากไปของลูกชายที่ป่วยติดเตียง ที่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำเป็นเวลาร่วม 10 ปี อย่างเศร้าใจว่า ลูกชายชื่อ นายเจษฎา แก้วไสย์ อายุ 31 ปี ป่วยด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เนื่องจากเคยฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอตัวเอง แต่สามารถช่วยชีวิตได้ ทำให้ต้องนอนติดเตียง แขนขาไม่มีแรงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แพทย์ต้องเจาะคอเพื่อเป็นช่องหายใจ และให้อาหารเหลวทางสายยาง ตั้งแต่ปี 2555

นางสังวาลเล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ อสม.ได้มีสอบถามว่าลูกชายจะฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 หรือไม่ เนื่องจากอยู่ในกลุ่ม 7 โรค ตนเองเห็นว่าผู้ป่วยติดเตียงคนอื่นภายในหมู่บ้านเขาฉีดกันทั้งนั้น จึงอยากให้ลูกฉีดด้วย ประกอบกับผู้เป็นพ่อยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เทียวเข้าออกนอกบ้านบ่อยครั้งเกรงจะนำเชื้อมาติดลูก และอยากให้ลูกอยู่กับตนเองไปนานๆ จึงอนุญาตให้ทางเจ้าหน้าที่มาฉีดวัคซีนถึงบ้าน

โดยก่อนฉีดได้ตรวจวัดความดันก็เป็นปกติดีทุกอย่าง เวลาผ่านไปข้ามวันในช่วงเช้าของวันที่ 30 กันยายน 2564 ลูกชายมีอาการไอบ่อยครั้ง มีเสลดติดตามลำคอ ความดันลดต่ำลง จวบจนช่วงค่ำ อาการก็ยังคงเหมือนเดิม ตนเองเห็นว่าจะต้องไปร่วมงานศพเพื่อนบ้าน จึงได้ไปกดเงินในตลาด ให้สามีผู้เป็นพ่อเฝ้าลูก และได้กลับมาบ้านในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. สังเกตดูลูกเงียบไป เพราะทุกครั้งที่เข้าบ้านลูกชายจะแสดงออกทางสายตามองกรอกไปมา เหมือนรับรู้ว่าแม่มาแล้ว แต่ครั้งนี้นิ่งไป จึงเข้าไปดูพบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว

ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก หวังที่จะให้ลูกด้วยกันนานๆ แต่กลับมาตายก่อน ซึ่งตนไม่ได้โทษใคร ไม่ได้โทษหมอที่มาฉีดวัคซีนให้ และเนื่องจากฐานะทางครอบครัวก็ยากจน จำต้องจัดงานศพลูกไปตามมีตามเกิด จึงอยากให้ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะคาดว่าสาเหตุของการตายของลูกเกิดจากการฉีดวัคซีน ทั้งที่ตนอยากให้ลูกอยู่ด้วยนานๆ ห่างจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงทำตามนโยบายของรัฐบาล แต่สุดท้ายกลับต้องเสียลูกไป

สำหรับนายเจษฎา มีกำหนดฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 ซึ่งทางญาติยังมีความหวังว่าทางภาครัฐจะเข้ามาช่วยเนื่องจากมีเงินประกันจากการฉีดวัคซีนโควิด

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ