อมรัตน์ ถามกลางสภา ส.ว.ใช้หนี้บุญคุณ คสช.ครบหรือไม่ จี้ ส.ว.ยืนข้างประชาชน ปิดสวิตช์ตัวเองเลือกนายกฯ ชี้ ถ้าแก้ ม.272 ไม่ได้ เลือกตั้งครั้งหน้าหมดความหมาย
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมจำนวน 4 ฉบับ โดยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า โอกาสทองการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหมดไปแล้ว แต่เราต้องพยายามแก้มาตรา 272 เพื่อให้ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า และสะท้อนเสียงประชาชนอย่างแท้จริงในการเลือกนายกรัฐมนตรี หากเราไม่สามารถแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ได้สำเร็จ ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าที่จะมาถึงอีกไม่กี่เดือนนี้ก็จะไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น
นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า รวมทั้งพรรคการเมืองที่ตระบัดสัตย์ต่อประชาชนก็จะใช้เป็นข้ออ้าง ในการไม่โหวตเลือกนายกฯ ตามที่หาเสียงไว้ ถ้าจะกล่าวว่ารัฐธรรมนูญปี 60 เป็นฉบับที่เลวร้ายที่สุด ตนคิดว่าไม่เกินความจริง เพราะออกแบบพิเศษสืบทอดอำนาจของเผด็จการที่ทำรัฐประหาร เพิ่มอำนาจให้องค์การอิสระ แต่เพิ่มข้อจำกัดให้นักการเมือง มีการยุบพรรคและตัดสิทธิ์กันง่ายมาก
นางอมรัตน์ กล่าวอีกว่า อีกทั้งยังมีบทเฉพาะกาลที่ผ่านการลงมติพ่วงมาชนิดที่เรียกว่าลักหลับ ประชาชนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราไม่สามารถแก้มาตรา 272 ได้ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนรู้เลยว่าคนที่จะเป็นนายกฯ คนต่อไปคือใคร เพราะว่าประชาชนรู้ว่า ส.ว.จะเลือกใคร จากครั้งที่แล้วจะเห็นได้ว่าแม่น้ำ 5 สายของคสช. ไหลรวมเป็นส.ว.ชุดนี้ถึง 157 คน จากส.ว.ทั้งหมด 250 คน
นางอมรัตน์ กล่าวว่า การแก้ไขมาตรา 272 วันนี้จะเป็นฉันทามติ และเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล และประชาชน ที่จะทำร่วมกัน ตนหวังว่ามาตรานี้จะผ่านไปได้เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชน การไม่ยกเลิกสิทธิ์ส.ว.เลือกนายกฯ จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าหมดความหมาย เพราะผิดหลักการ 1 สิทธิ์ 1 เสียง
นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าส.ส.ทั้งสภาจะผ่านให้ แต่ถ้าเสียงส.ว.ไม่ถึง 84 คน กฎหมายฉบับนี้ก็จะตกไปทันที อำนาจส.ว.ตามบทเฉพาะกาลเหลือเวลาอีกปีกว่าๆ อำนาจเลือกนายกฯ ก๊อกสองยังอยู่กับท่าน ถ้าการเลือกนายกฯ ในขั้นแรกเกิดอุบัติเหตุ จำเป็นต้องเสนอนายกฯ คนนอก ส.ว.ยังมีสิทธิ์มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ
“ดิฉันหวังกับการโหวตครั้งนี้ แม้เราอาจจะไม่ได้รักกันกับส.ว. อาจจะเกลียดกันเป็นบางครั้งบางคราว แต่ดิฉันคิดว่าเราสามารถทำงานด้วยกันได้โดยการแก้มาตรานี้ เพื่อให้ความสุขและยืนข้างประชาชน ดิฉันต้องการส.ว.อีก เพียง 28 เสียงเท่านั้นมาเติมเต็มที่หันมาโหวตเห็นด้วยกับพวกเรา เพราะการขอแก้รัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านรอบที่แล้ว มีส.ว.เห็นด้วย 56 เสียง เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีเมื่อเทียบกับการไปเป็นนั่งร้านให้ทรราชย์แก่กะโหลกกะลา และที่มีส.ว.กล่าวหานายรังสิมันต์ ว่าใช้หนี้กยศ.ยังไม่หมด ดิฉันก็อยากถามว่าแล้วส.ว.ใช้หนี้บุญคุณ คสช.ครบหรือยัง” นางอมรัตน์ กล่าว