‘อนุทิน’ แจงคุมโควิดอยู่ ซัด ‘หมอสุรวิทย์’แพร่ข้อมูลเท็จ ด้อยค่าวัคซีนจีน ยัน ‘กัญชาเสรี’ เป็นนโยบายรัฐบาล ขอโทษ คลิปหาเสียงทำเข้าใจผิด ติดพูดตลกไปหน่อย
ต่อมาเวลา 14.40 น. วันที่ 19 ก.ค.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงว่า การบอกว่าตนไม่มีความสามารถในการบริหารกระทรวงสาธารณุสุข และดำเนินนโยบายกัญชาเสรีผิดพลาด ในประเด็นการบริหารงานด้านสาธารณสุข เกี่ยวกับโควิด-19 ตนยืนยันว่าขณะนี้สถานการ์ดีขึ้นเรื่อยๆ และระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มเหลวตามที่บอก เพราะเราเตรียมรับการระบาดก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศให้เป็นโรคระบาดที่เฝ้าระวังถึง 6 สัปดาห์ และประกาศพบผู้ป่วยของประเทศนอกต้นกำเนิดประเทศแรกของโลก
เราเตรียมการรับมือทุกองคาพยพ เพื่อเฝ้าระวัง และรักษาผู้ที่ติดเชื้อ มียารักษาพร้อม การสูญเสียชีวิตในขณะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็เสียใจ แต่ว่าส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตจะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อยู่ และเป็นการเริ่มระบาดของโรค
นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ สั่งผ่านมาที่ตนให้ดูแลรักษาค่าใช้จ่ายให้ผู้ป่วย ผ่าน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นอกจากนี้ยังเร่งจัดหาวัคซีนทุกชนิดที่ได้รับความปลอดภัยมาเสริมภูมิคุ้มกัน และได้ฉีดวันซีนให้ประชาชนกว่า 140 ล้านโดส หรือมากกว่า 70% ของจำนวนประชากร วัคซีนทุกชนิดลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดอาการป่วย และเสียชีวิต การที่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย พยายามด้อยค่าวัคซีนที่ผลิตจากจีน ที่ให้การสนับสนุนด้านเวชภัณฑ์กับเราอย่างมาก และด้อยค่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไว้วางใจมาตั้งฐานการผลิตในไทย ซึ่งนายกฯ และรัฐมนตรีคนนี้ได้เพียรหาวัคซีนมาเพื่อคนไทย
นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่มีวัคซีนเหลือ หรือรอวันหมดอายุเททิ้ง หากประเทศไหนจะทิ้ง ตนจะทำหนังสือไปขอเพื่อนำมาฉีดให้คนไทย หรือนำมาส่งต่อให้ประเทศที่ไม่มีวัคซีนได้ วัคซีนที่ไทยมีอยู่ไม่มีวัคซีนที่รอวันหมดอายุ แต่มีรอฉีดให้คนไทยทุกคน และมียารักษาโควิด-19 เพียงพอ ข้อมูลที่นพ.สุรวิทย์ นำมาเสนอนั้นเป็นเท็จ เพราะพวกเรามีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด ท่านโหดร้าย และเหี้ยมโหด ที่มาด้อยค่าวัคซีน เพียงเพื่อตอบสนองทางการเมือง ทั้งที่พี่น้องประชาชนต้องยากลำบากเพียงพอแล้ว และเราไปแข่งในพื้นที่ดีกว่า ตนยินดีเปลี่ยนความขัดแย้งของท่าน ให้เป็นความเข้าใจร่วมกันเพื่อให้ประชาชนสบายใจ
“มีคนเคยพูดว่าสิ้นปี 2564 ถ้าถึง 100 ล้านโดส 100 บาทเอากองเดียว วันที่ 21 ธ.ค. 2564 เราฉีดวัคซีนเข็มที่ 100 ล้าน ไม่รู้ว่าท่านทราบหรือไม่ จึงอยากให้เข้าใจตรงกัน อย่าเอาข้อมูลที่เป็นเท็จมาทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะองค์การอนามัยโลกยกย่องไทยให้เป็นประเทศที่รับมือกับโวิค-19 ได้อย่างดี การจัดซื้อยา และเวชภัณฑ์ ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นไปอย่างเรียบร้อย และเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และศบค. ได้รับทราบ ยาที่เกี่ยวกับโควิด-19 และวัคซีน อยู่ในการขึ้นทะเบียนแบบภาวะฉุกเฉิน หาไม่ได้ทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งเราซื้อยาที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อมารักษาผู้ป่วยตามข้อแนะนำของคณะกรรมการแพทย์” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก ยังได้ออกประกาศให้วัคซีนแอสตร้าฯ สามารถให้ภูมิคุ้มกันสูงถึง 73% ไม่ต่างจากวัคซีนชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม คนที่สูงอายุ มีโรคประจำตัว ภูมิจะไม่ค่อยขึ้น กระทรวงสาธารณสุข จึงแจ้งต่อ ศบค. และครม. ว่ามียาที่ชื่อ LAAB ที่เป็นทั้งยาเสริมภูมิคุ้มกัน และรักษาโควิด-19 ซึ่งแอสตร้าฯ ประเทศไทยก็ให้ความร่วมมือ เปลี่ยนวัคซีนบางส่วน มาเป็น LAAB แทน โดยแพทย์จะเป็นผู้ที่ระบุว่าคนไข้แต่ละคนจะรับประทานยาชนิดใด
ถ้าแพทย์บอกว่าให้รับประทานกำกิกเผี่ยง ก็ต้องกิน จะไปกินฟาวิพิราเวียร์ทำไม เพราะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละคน ไม่ใช่ว่าเราจะรับประทานอะไรตามใจชอบ ทั้งนี้ เราได้สั่งการให้เตรียมพร้อมการระบาดรอบใหม่ทั้งหมดแล้ว ทั้งโรงพยาบาลในสังกัด และนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังชี้แจงถึงนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ว่า เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในวันที่แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาฯ นายกฯ แถลงนโยบายนี้ว่าไม่ขัดหรือแย้งต่ออนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษขององค์การสหประชาชาติ นายกฯ ให้นำกัญชา และกัญชงเพื่อศึกษาวิจัย และใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ไม่มีคำว่านันทนาการแม้แต่นิดเดียว และกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้ทำนอกเหนือจากสิ่งที่นายกฯ ระบุ
อย่างไรก็ตาม เมื่อออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ก็ต้องเคารพกฎหมาย ซึ่งใครจะทำต้องให้รัฐอนุญาต คนที่ยังใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็เสี่ยงผิดกฎหมาย จึงไม่มีช่องว่างช่องโหว่ ทั้งนี้ ยังมีกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง ที่มีสมาชิกจากหลายหลายภาคส่วน จึงเป็นเรื่องดีที่เราจะได้มีกฎหมายออกมาบังคับใช้
นายอนุทิน กล่าวว่า โดยกรมการแพทย์ได้ออกผลการศึกษาว่า กัญชา มีคุณสมบัติทางการแพทย์ ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ลดภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง และลดการเบื่ออาหารในผู้ป่วย ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาการใช้กัญชาทางการแพทย์เป็นอย่างดี ตนจึงเข้ามาต่อยอดทำให้นโยบายกัญชง กัญชาเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และลดยานำเข้าจากต่างประเทศได้ ยืนยันว่านี่คือนโยบายของรัฐบาล ไม่มีการสนับสนุนเพื่อนันทนาการ การนำกัญชา กัญชง ไปใช้ในทางที่ผิด จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ จึงไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล
“ผมมั่นใจว่า ในร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะสามารถควบคุมการใช้ในเยาวชน และการใส่ในอาหารได้ ระหว่างนี้ที่กฎหมายยังไม่ประกาศใช้ ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้มีกลไกการควบคุมการใช้ โดยการออกประกาศกระทรวงฯ ทั้งการควบคุมการใช้ การควบคุมกลิ่น และการควบคุมการปรุงอาหาร วันนี้ เราต้องไม่มองกัญชาว่าคือยาเสพติด แต่ให้มองว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ และสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างรายได้ให้ประชาชน รัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ได้บังคับใช้ประกาศกระทรวงฯ อย่างเคร่งครัด
ตนคิดว่า เรื่องกัญชา ประเทศไทยไม่จำเป็นทำเหมือนประเทศอื่น เราก็เป็นตัวของเราแบบนี้ และเราไม่ผิดข้อผูกมัด นี่คือโอกาสของเกษตรกร และคนทำอาชีพสุจริตได้มีรายได้ และทำให้ผู้ประกอบการทำเป็นอุตสาหกรรม และส่งออกได้ไปสู่ตลาดที่ต้องการ”นายอนุทิน กล่าว
จากนั้น นพ.สุรวิทย์ ใช้สิทธิพาดพิงลุกขึ้นยืนยันถึงข้อมูลต่างๆ ที่ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทินนั้น มาจากกระทรวงสาธารณสุข และมีคิวอาร์โคดย้อนไปตรวจสอบได้ จึงต้องให้ประชาชนตัดสินข้อมูลที่นายอนุทิน ได้ชี้แจงนั้นเป็นความจริงหรือไม่
ขณะที่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถามย้ำว่า สรุปแล้วว่านายอนุทิน มีอำนาจในการออกประกาศกระทรวงฯ เพื่อขยายเวลาการมีผลบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 120 วันหรือไม่ หกาทำได้ทำไมถึงไม่ทำ เพื่อจะไม่ต้องออกประกาศกระทรวงฯ มากมายควบคุม
ทำให้ นายอนุทิน ลุกชี้แจงว่า ประกาศกระทรวงฯ เป็นประกาศที่รัฐมนตรีต้องทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งขอให้มีผลบังคับใช้หลังจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วัน ซึ่งมาตกวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ทุกอย่างทำกระบวนการและหลักการแล้ว ส่วนกรณีวิดีโอคลิปของผู้อภิปรายเปิดนั้น ต้องดูทั้งคลิป เพราะสามารถตัดต่อกันได้
ทั้งนี้ ตนบอกว่าให้สูบกัญชาในบ้าน ห้ามออกไปข้างนอก เหมือนกับรายละเอียดใน ร่างพ.ร.บ.กัญชา ฯ ของพรรคก้าวไกล แต่ยอมรับว่าพูดติดตลกบ้าง ถ้าทำให้ไม่สบายใจก็ขอโทษคราวหน้าจะระมัดระวัง