อนุทิน ลั่นมุ่งลดเหลื่อมล้ำ ต่อยอด 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อไทย ชี้ต้องสร้างรายได้

Home » อนุทิน ลั่นมุ่งลดเหลื่อมล้ำ ต่อยอด 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อไทย ชี้ต้องสร้างรายได้



อนุทิน ลั่นมุ่งเน้นลดเหลื่อมล้ำ เล็งต่อยอด 30 บาทให้ดียิ่งขึ้น หมอมิ้ง ชี้ต้องสร้างรายได้ ลั่นนโยบายดีๆ ใครๆ ก็พูดได้ แต่เพื่อไทยทำได้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 2566 ที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) เครือมติชนจัดแคมเปญ “มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” เปิด 5 เวที 10 ยุทธศาสตร์ 2 กลยุทธ์ ซึ่งวันนี้เป็นเวทีแรก ประชันนโยบาย “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมือง ร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย

โดยในช่วงที่ 2 ดีเบต ชูจุดขาย ด้านเศรษฐกิจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในหัวข้อ การเตรียมนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวย คนจน ธุรกิจขนาดใหญ่ และผู้ค้าขายรายย่อย ว่า ถือเป็นโชคดีของพรรค ที่เน้นดูแลปากท้องประชาชน โดยมีม็อตโต้พรรคว่า ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ฉะนั้น พรรคจึงมุ่งเน้นเรื่องนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และจะต้องดำเนินต่อไป พรรคภูมิใจไทย ได้ดูแล 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีปัจจัยร่วมกันเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำให้ลดไปได้

“ความเหลื่อมล้ำจะลดหายได้อย่างแรกคือ ประชาชนต้องมีสิทธิได้รับการดูจากรัฐให้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ว่าต้องเท่าเทียมกันทุกคน โดยดูว่าคนในฐานานุรูปไหนจะได้รับการดูแลจากรัฐอย่างไร เช่น การรักษาพยาบาล ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่มีทางไปล้มเขาได้หรอก แต่ต้องต่อยอด อะไรที่ดีอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยไม่เคยคิดไปแก้ไขหรือทำอะไรให้คนลืมคนที่สร้างมันขึ้นมา แต่ต้องต่อยอดให้มีบริการที่ดียิ่งขึ้น ให้คนไทยทุกคนได้รักษาทุกที่ มะเร็งฉายรังสีทุกจังหวัด การล้างไตฟอกไตได้ครบทุกโรงพยาบาล ดังนั้น การเข้าถึงระบบสุขภาพของคนไทยทุกคนมีอย่างเท่าเทียมกัน“ นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการศึกษาของพรรคภูมิใจไทย อาจจะไม่ตรงกับบางพรรค เพราะเยาวชนไทยเรียนให้เราดีแล้ว บางคนไม่มีความสามารถในการจ่ายค่าเรียน รัฐก็ให้ยืม ไม่มีดอกเบี้ย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และอย่าไปฟ้องเขา แต่ไม่ต้องให้กู้ เมื่อเขาใฝ่ดี เราต้องให้เขามีชีวิตที่ดี แล้วเขาจะมาดูแลประเทศของเรา และดูแลพวกเราในยามแก่เฒ่า

เรื่องการใช้กฎหมาย ตนคิดว่าด้วยสภาพการสื่อสารนี้ การใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่ายจะต้องเป็นที่ตรวจสอบได้ เราทุกคนจึงต้องยอมรับกฎหมาย และคำพิพากษาต่างๆ เพื่อให้เราอยู่ในสังคมที่ไม่มีความเหลื่อมล้ำ หรือต่อให้มีก็ขอให้มีให้น้อยที่สุดแต่ยังอยู่ได้ร่วมกัน

ด้านนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ชัดเจนว่าหน้าที่ของเราคือ การสร้างรายได้ ภายใต้ 8 ปีที่เศรษฐกิจถดถอย ล้าหลัง สิ่งสำคัญคือเราแก้ทุกมิติ เศรษฐกิจจะเติบโตได้ รากฐานหรือคนที่อยู่มีรายได้น้อยจะต้องได้รับการดูแลก่อน เมื่อรดน้ำที่รากจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน จะมีการจ้างงานได้มากขึ้น รัฐบาลจะมีภาษีเพิ่มมากขึ้นและภาษีนี้จะกลับมาดูแลเรื่องสวัสดิการต่างๆ ให้ยกขึ้น

วันนี้ทุกคนพูดถึงเรื่องการใช้เงินเพื่อสวัสดิการ แต่ที่มาของเงินต้องมาจากรายได้ ซึ่งเรื่องของความเหลื่อมล้ำนั้น มีผลศึกษาว่าการที่ทำให้เศรษฐกิจของชนชั้นบนเพิ่มขึ้น 1% ภาพรวมของจีดีพีถอยลงไป 0.8 แต่ในทางตรงข้ามหากมารองรับในส่วนล่าง 20% จะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.48 ฉะนั้น หน้าที่ของเราการแก้ปัญหาของรากฐานหรือผู้มีรายได้น้อย ไม่ใช่แก้เพื่อคนมีรายได้น้อยแต่เป็นการยกระดับขึ้นมาทั้งในระดับเศรษฐกิจและไปทั้งประเทศ

มาตรการเหล่านี้พรรคคิดไว้ครบทุกมิติ เบื้องต้นเราอาจจะต้องแก้ปัญหาในระยะสั้น คือทำให้การท่องเที่ยวกลับเข้ามา เรื่องที่สองคือเรื่องภาคเกษตร เราจะเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 3 เท่าภายใน 4 ปี ส่วนที่สาม ธุรกิจเอสเอ็มอี ปัจจัยที่สำคัญคือเรื่องของการตลาดและการเงิน วิธีการเพิ่มผลผลิต เราจะดูแลแน่นอน

นพ.พรหมินทร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ การส่งต่อความเหลื่อมล้ำ มันอยู่ที่เรื่องของการศึกษา เพราะ 25% ของความเหลื่อมล้ำเกิดจากการศึกษา ฉะนั้น เราจึงมีนโยบายการศึกษาที่จะดูแล เรียนรู้เพื่อรายได้ เรียนรู้ได้ตลอดชีวิตโดยใช้เทคโนโลยีใหม่มาจัดการ

อย่างไรก็ตาม การที่เราเสนอคำขวัญคิดใหญ่ ทำเป็น เพราะพรรคใช้การคิดแบบภาพรวมทุกเรื่อง ตั้งแต่ต่างประเทศมาจนถึงในประเทศนำไปถึงการทำให้เป็นจริง รวมถึงเราหาคำตอบ ซึ่งยืนยันว่าเราหาคำตอบได้ และเราจะแก้ทุกมิติ รวมถึงแสวงหาศักยภาพซ่อนเร้นที่ถูกลืม

นอกจากนี้เราจะหยิบซอฟต์พาวเวอร์จากครอบครัวมาสร้างรายได้ เราเห็นความสำคัญของการศึกษา เรียนรู้เพื่อสร้างรายได้ เราจึงจะยกระดับไปพร้อมๆ กันตั้งแต่ข้างล่าง แล้วความเหลื่อมล้ำจะหายไป นโยบายดีๆ ใครๆ ก็พูดได้ แต่พรรคที่ทำได้คือพรรคเพื่อไทย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ