"อนุทิน" มั่นใจ พระครูมรณภาพไม่เกี่ยวกับวัคซีน รอผลตรวจทางการวันนี้

Home » "อนุทิน" มั่นใจ พระครูมรณภาพไม่เกี่ยวกับวัคซีน รอผลตรวจทางการวันนี้



"อนุทิน" มั่นใจ พระครูมรณภาพไม่เกี่ยวกับวัคซีน รอผลตรวจทางการวันนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี พระครูสิริปัญญาเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ มรณภาพ ว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตามจะนำร่างของพระครูสิริปัญญาเมธี ไปชันสูตรรายงานผลทางการแพทย์ โดยยังมั่นใจไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่อาจเป็นช่วงเวลาที่บังเอิญตรงกันพอดี เพราะวัคซีนที่นำเข้ามา ผ่านการทดสอบเรื่องความปลอดภัยมาหลายขั้นตอนมาก จากผู้ผลิตและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมไปถึงคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศเอง พร้อมย้ำ ว่า ประชาชนต้องไม่ตระหนกตกใจและสมควรที่จะเข้ารับวัคซีน ส่วนผลการชันสูตรของพระครูสิริปัญญาเมธีนั้น ขอให้รอผลทางการแพทย์ในวันนี้

ส่วนพระสงฆ์รูปอื่นๆที่ฉีดวัคซีนพร้อมกัน และมีอาการไข้นั้น เป็นเพียงอาการไข้เล็กน้อย ตัวรุมๆ ปวดเเขน ซึ่งถือเป็นอาการข้างเคียง ตนเองฉีดเข็มที่ 2 ก็รู้สึกหน่วงๆ กว่าตอนฉีดเข็มแรก ก็พยายามสังเกตอาการตัวเองตลอดเวลา และกลับมาเป็นปกติซึ่งก็ได้ถามรัฐมนตรีช่วยท่านอื่นๆ ก็มีอาการคล้ายกัน และขณะนี้เองพระสงฆ์ที่มีไข้ก็อาการดีขึ้น

นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกทีมแพทย์ เพื่อหารือจัดทำแอปพลิเคชั่น เพื่อรองรับการฉีดวัคซีน เพราะเกรงว่าวัคซีนที่นำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในรอบนี้กว่า 10 ล้านโดส จะไม่ทัน จึงพยายามหาช่องทางให้ประชาชนได้จองเวลาหรือลงทะเบียนให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้แพทย์ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งการเรียกหารือในครั้งนี้ ถือว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถสั่งการได้ทันทีให้จัดทำแอปพลิเคชั่นแต่กลับเรียกประชุมเอง

ทั้งนี้ นายอนุทิน ระบุว่า จะใช้ทุกแอปพลิเคชั่น ที่มีอยู่รวมไปถึงใช้ อสม. กว่า 1 ล้านคน ลงพื้นที่ โดยจะมีทีมแพทย์เป็นผู้ตรวจข้อมูล ยืนยันว่า จะเป็นการทำระบบแบบคู่ขนาน ทั้งระบบอนาล็อก
และระบบดิจิทัล ซึ่งขณะนี้ต้องค่อยๆ ทำให้คนนั้นคุ้นชินกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ และเชื่อ ว่า จะมีกำลังความสามารถในการบริหารจัดการวัคซีน ใครเดินเข้ามาก็สามารถฉีดได้ การโหลดแอปพลิเคชั่นไม่ใช่การจองวัคซีน แต่เป็นการกรอกข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะรวมไปถึงใบอนุญาตที่จะปรากฏอยู่ในแอปพลิเคชั่น ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็จะเป็นใบรับรองที่จะสามารถแนบในพาสปอร์ตได้ ซึ่งหากไทยมีแพลตฟอร์มที่เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ