‘อนุชา’ เผยประชุมแก้ “หวยแพง” เพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งแพ่ง-อาญา เร่งคัดตัวแทนขาย 80

Home » ‘อนุชา’ เผยประชุมแก้ “หวยแพง” เพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งแพ่ง-อาญา เร่งคัดตัวแทนขาย 80


‘อนุชา’ เผยประชุมแก้ “หวยแพง” เพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งแพ่ง-อาญา เร่งคัดตัวแทนขาย 80

‘อนุชา’ เผยประชุมแก้ “หวยแพง” เพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งแพ่ง-อาญา เร่งคัดตัวแทนขาย 80 พร้อมเดินหน้าแพลตฟอร์มจําหน่ายสลาก 16 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2565 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงข่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ เบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา

ได้แก่ มาตรการทางแพ่ง มาตรการทางอาญา และมาตรการทางกฎหมายอื่นๆ โดยมาตรการทางแพ่ง ต้องมีการแก้ไขสัญญาการรับสลากไปจำหน่าย ระหว่างสำนักงานสลากฯ กับตัวแทนรายย่อย และสมาคม องค์กร โดยเพิ่ม “หน้าที่และความรับผิดชอบ” ในการควบคุมกำกับดูแลตัวแทนจำหน่าย เพื่อแก้ไขและลดปัญหาการเปลี่ยนมือของสลาก มีวางเงิน “มัดจำ” เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา

นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้กำหนด “เบี้ยปรับ” กรณีมีการกระทำผิดสัญญา ซึ่งคณะอนุกรรมการจะศึกษาในรายละเอียดต่อไป และเห็นว่าการปรับแก้ไขรูปแบบของสัญญาสามารถดำเนินการได้ทันที รวมถึงต้องเพิ่มมาตรการทางอาญา

โดยเห็นควรออกใบอนุญาตให้ผู้ขายสลาก และการใช้มาตรการทางกฎหมายอื่นๆ เช่น การกำหนดฐานความผิดเพิ่ม กรณีมีทำให้ราคาสลากมีความปั่นป่วน การขายสลากเกินราคาที่กระทำโดยเปิดเผย กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การตรวจสอบการชำระภาษีอากร เป็นต้น

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ในส่วนงานของคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหานั้น ขณะนี้นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาได้สรุป หัวข้อในการศึกษา ที่จะสะท้อนการศึกษาได้ตลอดทั้งกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นต้นทาง กลางทางและปลายทาง

โดยเริ่มจากผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งเป็นต้นทางในการนำไปสู่การปฏิบัติที่จะทำให้มาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของการจัดสรรสลากที่สะท้อนภาพที่แท้จริงของตลาด นอกจากนี้ ยังเสนอให้สำนักงานมีระบบลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถดูแลผู้จำหน่ายสลากได้อย่างเหมาะสม

นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่สำนักงานฯ กำลังดำเนินการ ประกอบด้วย โครงการสลาก 80 ขณะนี้ให้บริการแล้ว 209 จุด ในกทม. และภาคกลาง ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 151 ราย ภาคตะวันออก 48 ราย อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกเกือบ 1,500 ราย ภายในเดือนพ.ค. 2565 เพื่อให้โครงการ สลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย พัฒนาแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยใช้แอปถุงเงินและแอปเป๋าตังเป็นหลัก คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในงวด 16 มิ.ย. 2565 โดยสำนักงานฯ จะนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้ความเห็นชอบในวันที่ 28 เม.ย. 2565

สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำนักงานฯ เตรียมนำเสนอคณะกรรมการสลากฯ เพื่อดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม ประจาปี 2565 โดยระยะแรก จะรับฟังความคิดเห็น 2 รูปแบบ ได้แก่ สลากตัวเลข 3 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือแบบที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นได้กลางปีนี้

นายอนุชา กล่าวต่อว่า กรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สำนักงานฯ กำลังทดสอบระบบและเริ่มดำเนินการเร็วๆ นี้ ปริมาณสลากที่จะนำเข้าจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น ควรจะมีปริมาณมากพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อม ทำให้ความรุนแรงของปัญหาสลากเกินราคาลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ได้ขอให้สำนักงานฯ ศึกษาวิเคราะห์ ส่วนลดจากการจำหน่าย มีความเหมาะสมหรือเพียงพอหรือไม่อย่างไร และในส่วนของมาตรการต่างๆ ของสำนักงานฯ ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไป ขอให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างการรับรู้และสื่อสารให้ประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบการค้าสลากออนไลน์เกินราคา ขอให้ประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมในการปิดให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดการค้าสลากเกินราคาในรูปแบบออนไลน์อีกต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ