อนุกมธ.รัฐวิสาหกิจ แนะรัฐชะลอขึ้นราคาน้ำมันดีเซล บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน เสนอใช้กลไก ปตท.เข้าช่วย ชี้หากแก้ปัญหาไม่ได้ บิ๊กตู่ ต้องปลดรมว.พลังงาน
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2565 ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน คณะที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากกรณีรัฐบาลประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลในวันที่ 1 พ.ค.นั้น กมธ.เห็นใจรัฐบาลที่ประสบปัญหาวิกฤตพลังงาน สืบเนื่องจากโควิด-19 และภาวะสงครามยูเครน-รัสเซีย แต่เห็นว่าหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลพยุงราคาดีเซล โดยใช้กลไกอุดหนุนราคาน้ำมันไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท รวมถึงการลดภาษีสรรพสามิต ถือว่าถูกต้องแล้ว เพราะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหลักใช้ขนส่ง ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อนมากนัก
นายอัครเดช กล่าวว่า อนุกมธ.ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ทบทวนการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลในวันที่ 1 พ.ค.นี้ โดยขอเสนอให้ใช้กลไกรัฐวิสาหกิจที่มีอยู่คือ ปตท. ที่รัฐกำกับอยู่ โดยให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน เรียกปตท.มาคุย เพราะที่ผ่านมาพบว่า 1.ต้นทุนแฝงที่ทำให้ปตท.ตั้งราคาน้ำมันดีเซลไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง 2.มีการบวกค่าขนส่ง น้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์มาไทย และบวกค่าประกันภัย และ3.ปตท.ไม่ยอมชี้แจงการกลั่นน้ำมันในประเทศไทยที่แท้จริง
ทั้ง 3 ส่วนนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่อยากให้นายกฯ สั่งการ รมว.พลังงาน ไปดู ปตท.และเอาทั้ง 3 ส่วน มาดูแลน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งอนุกมธ. เชื่อว่าสามารถเลื่อนการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลได้ จึงขอให้นายกฯ รับข้อเสนอเหล่านี้ด้วย ถ้านายกฯ ยังปล่อยให้ขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ความเดือดร้อนจะตกกับประชาชน เมื่อราคาสินค้าขึ้น แต่เวลาน้ำมันลง สินค้าไม่ได้ลงตาม ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมาก
“เมื่อวานนี้(27 เม.ย.) ได้ทราบจากสหพันธ์สมาคมการขนส่งทางบก ว่าหากแก้ปัญหาไม่ได้ ทางสหพันธ์ฯ เรียกร้องให้ปลด รมว.พลังงาน ซึ่งอนุกมธ. เคยมีความเห็นเรื่องนี้มาแล้ว เพราะเห็นว่า เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาวิกฤตพลังงาน ถ้ารมว.พลังงาน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ผมคิดว่านายกฯ ต้องพิจารณาข้อเสนอของสหพันธ์ฯ ปลดรมว.พลังงาน” นายอัครเดช กล่าว