วันที่ 14 มี.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. ว่า WHO แสดงความกังวลว่าสงครามใน ยูเครน อาจทำให้การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เลวร้ายลง และกำลังพยายามจำกัดการแพร่เชื้อมากขึ้น
จำนวนผู้ติดเชื้อใน ยูเครน ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคร้ายแรงและเสียชีวิตเนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนต่ำในยูเครน เช่นเดียวกับในจำนวนมากกว่า 2 ล้านคนที่หลบหนีออกนอกยูเครนไปพื้นที่โดยรอบๆ ซึ่งที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำเช่นกัน
ตามข้อมูลของ Our World In Data อัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของยูเครนอยู่ที่ประมาณ 34% ขณะที่มอลโดวา ประเทศใกล้เคียง อยู่ที่ประมาณ 29%
รายงานสถานการณ์ของ WHO ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 791,021 ราย คน ผู้เสียชีวิตรายใหม่อยู่ที่ 8,012 ราย ในยูเครนและในประเทศโดยรอบระหว่างวันที่ 3-9 มี.ค.
มาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าเทคนิคของ WHO เกี่ยวกับโควิด-19 กล่าวระหว่างการบรรยายสรุปข่าวเมื่อวันพุธ 9 มี.ค. ว่า “น่าเสียดายที่ไวรัสตัวนี้จะฉวยโอกาสแพร่กระจายต่อไป เราในฐานะองค์กรตระหนักดีว่าประเทศต่างๆ อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันมาก กำลังเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างกัน มีการเคลื่อนไหวและผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตครั้งนี้”
ในวันเดียวกันนั้น ดร.ไมก์ ไรอัน กรรมการบริหารโครงการภาวะฉุกเฉินสุขภาพของ WHO กล่าวว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของโควิด-19 ในยูเครน “อย่างไม่ต้องสงสัย” โดยอ้างว่าการเพิ่มขึ้นที่คาดการณ์นั้นเกิดจากการขาดการตรวจหาเชื้อ การหยุดฉีดวัคซีน และประชากรที่เครียดและเหนื่อยล้าจากสงครามที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำอยู่แล้ว
ไรอันเสริมว่า โลกควรหลีกเลี่ยงการเหมารวมเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยและโรคภัยไข้เจ็บ “ขอให้เราระมัดระวังคำพูดของเราอย่างมาก เพราะมักเกิดขึ้นเสมอ ในทางใดทางหนึ่ง คนหนีจากสงครามน่าสะพรึงกลัว กำลังนำสิ่งของติดตัวไปด้วย ยุโรปมีโควิดมากมายอย่างที่เป็นอยู่ และจัดการได้ และผู้ลี้ภัยชาวยูเครนจะไม่เปลี่ยนแนวทางในเรื่องนี้”
รายงานเมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า WHO ซื้อยารักษาโรคโควิด-19 และแนะนำรณรงค์ฉีดวัคซีนและเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และโรคติดเชื้ออื่นๆ
ฮังการีฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนฟรี และองค์การอนามัยโลกยังเสนอความช่วยเหลือในห้องปฏิบัติการซึ่งรวมถึงการตรวจหาโควิด-19 ขณะที่โรมาเนียส่งทีมแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ชาวยูเครนที่หนีออกนอกประเทศ
ส่วนสโลวะเกียไม่คิดค่ารักษาโควิด-19 ด้านมอลโดวายังฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรีแก่ชาวยูเครน โดยกระทรวงสาธารณสุขโรมาเนียดำเนินการตรวจหาเชื้อและติดตามโควิด-19 รวมถึงโรคอื่นๆ
WHO เรียกร้องในแถลงการณ์ร่วมกับ UNICEF และ UNFPA ยุติการโจมตีระบบสาธารณสุขของยูเครน หลังได้รับการยืนยันการโจมตีสถานพยาบาลในยูเครน 31 ครั้ง
“พันธมิตรมนุษยธรรมและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะต้องสามารถรักษาและเสริมสร้างบริการสุขภาพที่จำเป็นอย่างปลอดภัย รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 และโปลิโอ และการจัดหายาช่วยชีวิตสำหรับพลเรือนทั่วยูเครน ตลอดจนผู้ลี้ภัยที่เดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน บริการสุขภาพควรให้บริการอย่างเป็นระบบที่จุดผ่านแดน รวมถึงการดูแลอย่างรวดเร็วและกระบวนการส่งต่อสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์” ” แถลงการณ์ของ WHO กล่าว