อนามัยโลกถกอีกรอบ ประกาศฝีดาษลิงฉุกเฉินระดับโลกหรือไม่

Home » อนามัยโลกถกอีกรอบ ประกาศฝีดาษลิงฉุกเฉินระดับโลกหรือไม่


อนามัยโลกถกอีกรอบ ประกาศฝีดาษลิงฉุกเฉินระดับโลกหรือไม่

อนามัยโลกถกอีกรอบ ประกาศฝีดาษลิงฉุกเฉินระดับโลกหรือไม่

อนามัยโลกถกอีกรอบ – วันที่ 21 ก.ค. เอพีรายงานว่า คณะกรรมการภาวะฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประชุมอีกเป็นครั้งที่สองเพื่อพิจารณาว่าจะประกาศให้โรคฝีดาษลิงที่กำลังระบาดอยู่ในหลายประเทศขณะนี้เป็น “ภาวะฉุกเฉินระดับโลก” หรือไม่

การประชุมดังกล่างมีขึ้นท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตของนักวิทยาศาสตร์หลายคน ว่าความแตกต่างระหว่างการระบาดในทวีปแอฟริกากับในชาติพัฒนาแล้วอาจทำให้เกิดความยากลำบากในการร่วมมือประสานงานกัน

อนามัยโลกถกอีกรอบ

AP

นอกจากนี้ การถกเถียงยังเกิดขึ้นในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่าการประกาศดังกล่าวมีความจำเป็นหรือไม่ เนื่องจากทางการแอฟริกาใต้นั้นถือว่าโรคฝีดาษลิงซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นเป็นเหตุฉุกเฉินอยู่แล้ว ขณะที่โรคฝีดาษลิงที่กำลังระบาดในทวีปยุโรปและอเมริกานั้นมีความรุนแรงต่ำกว่า

ยิ่งไปกว่านั้นทางการอังกฤษยังประกาศลดระดับเตือนภัยการระบาดของโรคฝีดาษลิงลงด้วยเนื่องจากมองว่าไม่ได้มีความรุนแรงของโรคมากนัก ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มมองว่า แม้จะหยุดยั้งการระบาดของโรคฝีดาษลิงไม่ได้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถือว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคประจำถิ่นที่ระบาดอยู่ในภาคกลางและตะวันตกของทวีปแอฟริกามานานหลายสิบปีแล้ว โดยเป็นโรคผิวหนังที่ติดจากสัตว์ป่ามาสู่มนุษย์ ส่วนการระบาดในยุโรปและอเมริกาเหนือนั้นเริ่มมาตั้งแต่เดือนพ.ค

ผู้ป่วยส่วนใหญ่นั้นเป็นบุคคลที่มีรสนิยมทางเพศแบบรักร่วมเพศ โดยผู้เชี่ยวชาญจาก WHO สันนิษฐานว่ามาจากการร่วมเพศกันในงานปาร์ตี้ 2 แห่ง ที่จัดขึ้นในเบลเยียมและสเปน

ปัจจุบันพบผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงแล้วอย่างน้อย 15,000 คนทั่วโลก โดยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา และบรรดาชาติร่ำรวยเริ่มกวาดซื้อวัคซีนป้องกันโรคไปแล้วหลายล้านโดส แต่ทวีปแอฟริกานั้นกลับไม่มีวัคซีนแม้แต่โดสเดียวทั้งๆ ที่โรคฝีดาษลิงในแอฟริกานั้นมีความรุนแรงกว่ามาก มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 70 ราย ส่วนในชาติอื่นนั้นยังไม่พบผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว

WHO ยังพบด้วยว่า ผู้ป่วยที่อยู่นอกทวีปแอฟริกานั้นร้อยละ 99 เป็นเพศชาย ในจำนวนนี้ ร้อยละ 98 เป็นผู้ที่มีรสนิยมรักร่วมเพศเดียวกันและเคยมีเพศสัมพันธ์กับชายอื่นด้วยกันมาแล้วก่อนป่วย แม้โรคดังกล่าวจะสามารถติดต่อได้ทุกเพศที่สัมผัสตุ่มหนองติดเชื้อ

ศาสตราจารย์นายแพทย์พอล ฮันเตอร์ มหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลีย ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า โรคนี้ระบาดในหมู่ชาวเกย์ เป็นกลุ่มบุคคลที่รักความเป็นส่วนตัวไม่ต้องการเปิดเผยให้ผู้อื่นทราบและบางครั้งไม่ทราบด้วยว่าบุคคลที่มามีหลับนอนด้วยกันนั้นเป็นใคร

ศ.นพ.ฮันเตอร์ ระบุต่อว่า ผู้ป่วยบางคนเป็นผู้ชายที่สมรสกับผู้หญิงอีกคนอยู่แล้วก็มีและพยายามปิดบังเรื่องดังกล่างจากครอบครัว ทำให้การสืบสวนเส้นทางของโรคนั้นยากเย็นอย่างยิ่ง รวมถึงการขอให้มาเข้ารับการตรวจหาเชื้อด้วย วัคซีนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หาก WHO ตัดสินใจประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลกก็อาจยิ่งส่งผลให้เกิดการกวาดซื้อและกักตุนวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษเหมือนกันกับที่เคยเกิดขึ้นกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ