อนันดา ตอบปมค่าตัว ซื้อคอนโด-รถ แค่มุขโจ๊ก พูดให้โอเวอร์ ขออย่าดราม่า

Home » อนันดา ตอบปมค่าตัว ซื้อคอนโด-รถ แค่มุขโจ๊ก พูดให้โอเวอร์ ขออย่าดราม่า



อนันดา ตอบปมค่าตัว ซื้อคอนโด-รถ แค่มุขโจ๊ก พูดให้โอเวอร์ ขออย่าดราม่า

กลายเป็นดราม่า สำหรับพระเอกดัง อนันดา เอเวอริงแฮม หลังภาพยนตร์ เรื่อง ทิดน้อย ชูเรื่องค่าตัวของ อนันดา-อั้ม พัชราภา แสดงหนัง 1 เรื่อง สามารถซื้อคอนโดย่านทองหล่อและรถได้เลย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์

ล่าสุด(1 ก.พ.66) อนันดา มาร่วมงานแถลงข่าว ขุนพันธ์ 3 พร้อมเปิดตัวอย่างตัวเต็มของภารกิจครั้งล่าสุด ณ โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ และหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว

ดราม่าค่าตัวเล่นหนังเรื่อง ‘ทิดน้อย’ ซื้อคอนโด ซื้อรถได้จริง? “ไม่เห็นข่าวนะ หมายถึงโมเดลคอนโด โมเดลรถ คือมันไม่ได้อะไรอย่างนั้นหรอก ถ้าจำได้เป็นเรื่องที่พี่เขาแซวตั้งแต่เราบวงสรวง มันโจ๊ก ไอเดียเขาคือพูดให้มันโอเวอร์แหละ มันไม่ใช่เรื่องจริง ถ้ามันเป็นอย่างงั้นจริงๆ ก็ดีสิครับ ผมเล่นหนังมา 30-40 เรื่อง คงมีคอนโดอยู่ทั่วกรุงเทพฯ แล้วล่ะ”

เกิดการเปรียบเทียบกับคนเบื้องหลังที่เขาอาจจะไม่ได้ขนาดนี้? “เราคงต้องจับเข่าคุยกันอีกนาน เพราะผมเป็นโปรดิวเซอร์อยู่แล้ว แล้วผมก็รู้เรื่องค่าตอบแทน ความไม่แฟร์ของงานในวงการนี้ มันมีหลายเลเวล ถ้าสมมติเรามามองกันแบบพื้นๆ ฉาบฉวย เป็นข่าวดราม่าเฉยๆ มันไม่เกิดประโยชน์ เพราะจริงๆ ถ้าเราจะมาแก้ไขปัญหาตรงนี้ มันเป็นนโยบายมากกว่า”

“ต่างประเทศเขามีองค์กรที่ป้องกันคนในวงการ แล้วบ้านเรามีที่ไหน จริงๆ ถ้าจะคอมเพลนก็ช่วยผลักดันให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วมันไม่ใช่แค่วงการหนังอย่างเดียว มันหลายวงการเลย ทั้งอุตสาหกรรม ถ้าจะพูดในมุมของนักแสดง มันก็พูดปกคลุมทั้งวงการไม่ได้อยู่แล้ว นักแสดงที่ได้เยอะก็ไม่ใช่ทุกคน มันเฉพาะบางคน”

เรื่องโจ๊กที่เราพูดกันวันนั้น มาโปรโมตภาพยนตร์มันดูไม่ดี?ผมว่าในมุมของผม มันเซ้นสิทีฟเกินไป มันคือโจ๊ก ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าบางทีเราไปจับคำพูดจากคอมเมนต์ที่มันออกไปทางย้อนกลับมาแรง แล้วเราก็ไปจับตรงนั้นมาตีความว่านี่คือเสียงของส่วนใหญ่ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ ส่วนใหญ่ทุกคนแยกแยะได้ และมองเห็นได้อย่างชัดอยู่แล้วว่านี่มันคือโจ๊ก มันคนละอย่าง ยังไงมันก็ยังเป็นโจ๊ก แค่รู้สึกว่าไม่ควรไปซีเรียสกับตัวเองจนเกินไป ถ้าแค่นี้คือดราม่าก็อาจจะเกินไป มันมีอะไรอีกเยอะที่จะคอมเพลนกันได้”

เราซีเรียสจากการวิจารณ์? “ไม่ซีเรียส เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ลืม มันไม่ได้มีอิมแพ็กอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าสมมติอยากจะคุยกันในเรื่องของความแฟร์ในวงการ อันนี้เรามานั่งจับเข่าคุยกันดีกว่า ผมยินดีที่จะคุย ผมเคยบ่นมานานแสนนานแล้วล่ะ ว่าทำไมเราไม่มีองค์กรอะไรมาเซฟนักแสดง มันมีสิทธิอีกเยอะที่ผมอยากได้เหมือนกันนะ”

“อย่างถ้าผมทำงานอยู่ในองค์กรต่างประเทศ ผมรีไทร์ไปได้ตั้งนานแล้ว เพราะหนังทุกเรื่องที่ผมได้แสดงมาเนี่ย ผมได้แบล็กเอ็นทุกครั้งที่เขาเอาไปฉายใหม่ สแตนดาร์ดก็ไม่มีในประเทศไทย”

ถ้าจะให้มันเท่าเทียมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม? “ถ้าคนจะมาเปิดประเด็นนี้ผมยินดีมาก อยากพูดมาก มันเป็นส่วนที่เราแคร์ แต่ว่าในส่วนที่เราคุยกันในงานก็แค่โจ๊ก อย่างที่บอกคุยกันแบบนี้มันอาจไม่ได้อะไรอยู่แล้ว คือมันอาจจะเริ่มมาจากวัฒนธรรมบ้านเรา”

“เช่น บางคนให้พื้นที่ดารามาก่อนนักแสดง อย่างหลายๆ คนที่เข้ามาในวงการ เขาถูกปั้นมา เขาไม่ได้ถูกหยิบมาจากโรงเรียน พอเขาถูกปั้นจากทางค่าย เขาจะมีปากเสียงได้ยังไง เขาก็ต้องอยู่ในค่ายแล้วพออยู่จุดนั้นเขาก็กลายเป็นโปรดักต์ของค่าย ถ้าเป็นไปได้ มันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ถ้าเป็นเรื่องยูเนียนทั้งคนในวงการและอุตสาหกรรม ทุกเลเวลเลย”

“ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟ ช่างภาพ แต่ครั้งนี้ก็ต้องได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ใหญ่ในวงการ และผม อยากให้ผมออกตัวตรงนี้ผมยินดีอยู่แล้ว รวมทั้งภาครัฐก็ต้องเข้ามา เพราะเราต้องยอมรับหลายอุตสาหกรรมในบ้านเรา ก็ถ้าเราแคร์กันจริงๆ อะไรที่อยู่ในใจก็อยากให้มันตาย ถ้ามันสามารถขยายต่อยอดเป็นการพูดคุยแบบจริงจัง ผมก็เป็นตัวแทนให้ได้อยู่แล้ว ยินดีครับ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ