ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบินมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและการบริการชั้นเลิศ ล่าสุด อดีตแอร์โฮสเตสของสายการบินชื่อดัง ได้ออกหนังสือเปิดเผยความลับของชั้นเฟิร์สคลาส เช่น การที่ลูกเรือจะคอยสังเกตการณ์ ผู้โดยสารในชั้นนี้ทุก ๆ 30 นาทีแบบเงียบ ๆ และเมื่อเผชิญกับผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมเข้มข้นบนเครื่องบิน พวกเขามีวิธีจัดการอย่างไร เรื่องราวนี้ช่วยเปิดมุมมองถึงความท้าทายในงานของแอร์โฮสเตส

ตามรายงานของ Daily Mail ของอังกฤษ มาริกา มิคูโซวา อดีตแอร์โฮสเตสของสายการบินชื่อดังที่ทำงานอยู่เป็นเวลา 5 ปี ได้ออกหนังสือเล่มใหม่ชื่อ “บันทึกของแอร์โฮสเตส” (Diary of a Flight Attendant) ซึ่งเธอได้เปิดเผยว่าแอร์โฮสเตสในชั้นเฟิร์สคลาสจะถูกขอให้จับตาดูผู้โดยสารทุกๆ 30 นาที

โดยเน้นย้ำว่า “การทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อการละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่เป็นเพียงมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้โดยสารยังมีชีวิตอยู่และหายใจตามปกติ”

มาริกา มิคูโซวา ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า กฎนี้ใช้เฉพาะในชั้นเฟิร์สคลาส เนื่องจากการออกแบบห้องโดยสารในชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบินที่เธอทำอยู่เป็นแบบห้องสวีทส่วนตัว เมื่อประตูที่มีเซ็นเซอร์ถูกปิดลง จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวที่ป้องกันการรบกวนจากภายนอกได้อย่างสมบูรณ์ ขณะที่ที่นั่งในชั้นธุรกิจมีลักษณะที่เปิดกว้าง จึงไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบในลักษณะเดียวกันนี้

มาริกา มิคูโซวา ยังเผยว่า บางครั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็พบเห็นพฤติกรรม “พิเศษ” ของผู้โดยสาร เช่น ครั้งหนึ่งเธอเห็นคู่รักคู่หนึ่งกำลังมีการปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ใกล้กับพื้นที่ทำงานในครัวของพนักงานต้อนรับในชั้นเฟิร์สคลาส “พฤติกรรมของพวกเขาค่อยๆ รุนแรงขึ้น จนเราต้องเข้าไปแทรกแซงและขอให้พวกเขากลับไปที่ที่นั่ง”

หลังจากนั้นพนักงานต้อนรับต้องเฝ้าดูคู่รักคู่นั้นอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทำพฤติกรรมลักษณะเดียวกันในที่นั่งโดยใช้ผ้าห่มปกปิด เธอกล่าวว่า หากผู้โดยสารถูกจับได้ว่าเข้าร่วมใน “กิจกรรมกลางอากาศ” อาจได้รับการลงโทษที่รุนแรง โดยเฉพาะกับสายการบินในประเทศอาหรับ

นอกจากนั้น มาริกา มิคูโซวา ยังแชร์กิจวัตรประจำวันของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ตั้งแต่ผู้โดยสารขึ้นเครื่องจนถึงการสิ้นสุดการเดินทาง พนักงานต้อนรับจะต้องคอยเฝ้าระวังสถานการณ์ของผู้โดยสารอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะสุขภาพฉุกเฉิน

และหลังจากการบริการอาหารเสร็จสิ้น พนักงานต้อนรับจะทำความสะอาดห้องน้ำ ตรวจสอบการทำงานของเครื่องตรวจจับควัน เติมกระดาษทิชชู่และผ้าเช็ดหน้า และมอบน้ำผลไม้และน้ำให้กับผู้โดยสารที่ยังไม่นอน

มาริกา มิคูโซวา กล่าวว่า “เราจะทำการตรวจสอบทุกๆ 45 นาที เก็บแก้วที่ใช้แล้ว จัดการขยะ และเตรียมพร้อมสำหรับการบริการรอบถัดไป” เธอเน้นย้ำว่า งานของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ได้มีแค่การเสิร์ฟอาหารเท่านั้น “มันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย การบริการ และทักษะการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า” ซึ่งต้องการทั้งความอดทนและความใส่ใจอย่างสูง