พ่อยอมปล่อยลูกสาว 9 ขวบแล้ว หลังจับขังเป็นตัวประกันตั้งแต่เช้ามืด ตำรวจเจรจากล่อมทั้งวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 18.00น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก. สน.พหลโยธิน นำกำลังไประงับเหตุมีพ่อเมายาใช้มีดดาบจับลูกสาวเป็นตัวประกัน เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยลาดพร้าว 41 แยก 6 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขต กทม.
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 2 คูหา ประตูเหล็กหน้าบ้านปิด เจ้าหน้าที่ใช้คีมตัดกุญแจเปิดออก แต่ยังพบว่าบ้านยังติดประตูกระจก ภายในบ้านพบ นายเคน อายุ 48 ปี มีอาการหลอนยาเสพติด ถือมีดดาบยาวร่ายรำอยู่ในบ้าน และมีลูกสาว ทราบชื่อเล่นน้องแพรวา อายุ 9 ขวบ เดินไปมาอยู่ในบ้าน โดยไม่มีอาการหวาดกลัว
เจ้าหน้าที่พูดเกลี้ยกล่อมโดยใช้โทรศัพท์พูดคุยกีบนายเคนให้วางมีดและเปิดประตูออกมาคุยกัน แต่นายเคนไม่ยอมออกมากลัวตำรวจจับ ตำรวจยืนยันว่าจะไม่จับ แต่นายเคนก็ยังไม่ยอมเปิดประตู
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่านายเคนมีภรรยา ชื่อหญิงทำอาชีพเสริมสวย และมีลูกสาว 1 คน นายเคนเมื่อก่อนเคยเปิดร้านมินิมาร์ท บริเวณชั้นล่างของที่เกิดเหตุ แต่ระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดีจึงเลิกทำ และหันไปเสพยาไอซ์
ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดวันนี้ ขณะที่เมียกับลูกสาวนอนอยู่บ้านยายใกล้ที่เหตุ นายเคนมีอาการเมายาไอซ์ออกจากบ้านที่เกิดเหตุได้ไปอุ้มลูกออกมาจากเตียงนอนบ้านยาย และพามาที่บ้านเกิดเหตุและขังลูกไว้ไม่ยอมให้ใครเข้าไป เมียกับยายและเพื่อนบ้านพยายามเกลี้ยกล่อมให้เปิดประตูปล่อยลูกออกมา
เมื่อตำรวจมาถึงช่วงเช้าเข้าเกลี้ยกล่อมครั้งหนึ่งแล้ว แต่นายเคนบอกว่าตอนเย็นจะปล่อยลูกให้ตำรวจกลับไปก่อน แต่นายเคนไม่ยอมปล่อย จนเวลา 20.00 น. นายเคนก็ยังขังตัวเองกับลูกอยู่ในบ้าน
ต่อมาเวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่่หน่วยอรินทราช 26 จำนวนหนึ่งหมวดได้เดินทางถึงที่เกิดเหตุ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่
เวลาประมาณ 21.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาได้เข้าเจรจากับนายเคน ซึ่งนายเคนมีท่าทีอ่อนลง ก่อนยินยอมวางอาวุธมีดและปล่อยตัวลูกสาวออกมาอย่างปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายเคนไปยังสถานีตำรวจ
ต่อมา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเดินทางมายังที่เกิดเหตุและร่วมสั่งการช่วยเหลือเด็ก บอกว่า เป็นเรื่องความเข้าใจผิดระหว่างสามีภรรยา และผู้ก่อเหตุไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร ส่วนเด็กปลอดภัยดี ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ก่อเหตุจะนำตัวไปสอบสวน และตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกายตามขั้นตอนต่อไป เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะดำเนินคดีต่อไป