กรณีอดีตผู้บริหารบริษัทชื่อดังระดับโลก ใช้เท้าถีบใบหน้าของ พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. ขณะขับรถยนต์เมอเซเดสเบนซ์ สีดำ หลังถูกจับกุมข้อหาเมาแล้วขับ ซึ่งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ภายในด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์และกวดขันวินัยจราจร บริเวณฝั่งตรงข้าม มัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพ เมื่อกลางดึก ของวันที่ (23 เม.ย.) ที่ผ่านมา
ขณะเกิดเหตุอดีตผู้บริหารสาวรายนี้ขัดขืน และด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ขณะถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จนถูกดำเนินคดี รวม 3 ข้อหา เมาแล้วขับ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้ต้องหารับสารภาพเพียง1 ข้อหา คือเมาแล้วขับ ส่วนอีก 2 ข้อหาอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 27 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตผู้บริหารรายนี้ เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ว่า จากกระแสข่าวที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่า ตนเองเคยถูกดำเนินคดีส่งฟ้องศาลซึ่งอยู่ระหว่างการรอลงอาญา เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2565 เมื่อ 2 ปี ก่อน ยืนยันว่าไม่เคยโดนคดีเมาแล้วขับ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาให้ข้อมูล
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดี หรือจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นได้พูดคุยเจรจากับ พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รองผกก.5 บก.จร. คู่กรณีจบไปแล้ว ส่วนในวันดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ ส่วนตัวขอไม่ตอบคำถามนี้แต่ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ส่วนข้อหาการทำร่างกายและประเด็นอื่น ๆ ขอให้การในชั้นศาลเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน แต่ยังคงรอการนัดแนะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแบบไหนก็ให้เป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งในส่วนของตนเองนั้น ยังไม่เคยออกมาให้การกับใคร แต่ขอเปิดเผยข้อมูลในชั้นสอบสวน ที่ต่างฝ่ายจะต้องนำหลังกฐานมาพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่ตนเองพิสูจน์ได้ในเวลาในนี้คือยังไม่เคยถูกดำเนินคดีใดในอดีต
จากคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปโดยมีคำพูดของตัวเองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ชั้นต่ำ” นั้น เจ้าตัวกล่าวว่า เรื่องนี้คลิปที่ถูกเผยแพร่ไปเป็นแค่บางช่วงที่ถูกตัดต่อและเผยแพร่ออกไป ซึ่งคลิปจริง ๆ นั้นมีความยาวมากกว่านี้ โดยการเจรจาในวันเกิดเหตุไม่ได้มีแค่คำนี้คำเดียว และคำพูดดังกล่าวที่ได้พูดออกไปน่าจะเป็นคำพูดที่แรงที่สุดชีวิตของตนแล้ว เพราะปกติเป็นคนไม่ใช้คำหยาบ ยืนยันว่าไม่ได้ด่าใคร แต่ที่พูดออกไปเพราะมีที่มาที่ไป และยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้เมา
ส่วนเรื่องผลกระทบทางจิตใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นส่วนตัวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกรอบแล้ว และไม่มีอะไรติดใจกัน
ด้าน พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ ว่า วันนี้ทางพนักสอบสวนไม่ได้นัดหมายให้เข้าพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการไปตรวจร่างกายเพื่อนำหลักฐานมายื่นให้กับพนักงานสอบสวน ในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย แต่ยืนยันว่าจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจากระบบ CRIME ทางผู้กระทำความผิดเคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ปี 2565 ซึ่งเป็นจุดตั้งด่านตรวจเดียวกันกับครั้งนี้