หนุ่มวัย 26 ปี กระโดดสะพานภูมิพล 2 จมหายยังไม่ทราบชะตากรรม เพื่อนร่ำไห้เห็นสตอรี่สุดท้าย แต่มาห้ามไว้ไม่ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.อ.สมยศ ไกรกิจธนโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้ชายกระโดดสะพานภูมิพล 2 ลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งสำโรงใต้ ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ สูญไปในแม่น้ำหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ  

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพานได้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ มีหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำอยู่ในตะกร้าหน้ารถ และด้านเบาะข้างหลังมีกระเป๋าสำหรับใส่อาหารของสีดำ ติดอยู่ท้ายรถ และบริเวณราวเหล็กด้านนอกสะพานพบรองเท้าแตะ สีดำขาว 1 คู่ และโทรศัพท์มือถือวางอยู่ที่พื้น

ตรวจสอบเอกสารพบสำเนารถและบัตรการรับราชการทหาร ระบุชื่อ นายเจริญโชค อายุ 26 ปี ส่วนชายที่กระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่สามารถระบุได้ว่าชื่ออะไร ตรงกับเอกสารที่ตรวจพบหรือไม่ ซึ่งระหว่างที่ชายคนดังกล่าวกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยามีชาวบ้านถ่ายคลิปเอาไว้ได้ 

จากการสอบถาม นายคม อายุ 25 ปี เพื่อนผู้ตาย ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นสตอรี่ของเจริญโชค ตนจึงถามว่าอยู่ไหน แต่เจริญโชค ตอบว่า อยู่ในความทรงจำของมึงไงเพื่อน ปกติเจริญโชค มีงานประจำทำอยู่ ส่วนที่มาวิ่งส่งอาหารเป็นอาชีพเสริม โดยมีบ้านพักอยู่ในซอยวัดด่านสำโรง

ก่อนเกิดเหตุเจริญโชค ได้เข้าไปหาตนเองที่บริษัทแล้ว ถามว่า มึงยังเป็นเพื่อนกูอยู่ใช่ไหม ตนตอบว่าใช่และตบหัวผู้ตายเบาๆ  ก่อนที่เจริญโชคจะขี่รถออกมาไป จนกระทั่งตนมาเห็นในสตอรี่ที่เจริญโชคถ่ายรูปบนสะพาน

ตนจึงถามว่าน้องที่เป็นกู้ภัยว่าใช่สะพานภูมิพลหรือเปล่า ก่อนที่ตนจะรีบลางานและขี่รถขึ้นมาแต่ก็ไม่ทันเจริญโชค ได้กระโดดสะพานดังกล่าวไปก่อนแล้ว ส่วนที่เจริญโชคมาก่อเหตุดังกล่าวน่าจะมาจากปัญหาครอบครัวเพราะเจริญโชค ลูกยังเล็กน่าจะมีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้จ่ายในบ้าน  

ด้าน ภรรยาของเจริญโชค เล่าว่า เมื่อคืนตนกับเจริญโชคมีปากเสียงกันปัญหาในครอบครัว และเรื่องส่วนตัวหลายเรื่อง จนมาเมื่อตอนเช้าเจริญโชคได้ออกไปทำงานตามปกติ จนมาช่วงเที่ยงเจริญโชคได้ถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่ายืนถอดรองเท้าอยู่บนสะพานภูมิพล 2 เเละส่งข้อความเหมือนน้อยใจ สักพักก็มีเพื่อนของแฟนโทรศัพท์มาแจ้งว่า แฟนของตนได้กระโดดสะพานภูมิพลลงแม่น้ำเจ้าพระยา และจมหายไป ตนจึงได้รีบเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ  

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเครียดปัญหาในครอบครัวในเรื่องเงินใช้จ่ายในครอบครัวไม่พอใช้ แม้จะพยายามหาอาชีพเสริมแล้วก็ตาม ประกอบกับทะเลาะกับภรรยา จึงได้ขี่รถไปบอกลาเพื่อนก่อนที่จะขี่รถมาจอดบนสะพานดังกล่าว และใช้โทรศัพท์ถ่ายสตอรี่ยืนบนสะพานส่งไปให้ภรรยาดู ก่อนที่จะกระโดดลงมาจมหายไปในน้ำดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดบนสะพานอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป