วันที่ (2 เม.ย. 66) กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ ทนายตั้ม หรือ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์ข้อความถึง สวนชูวิทย์ หลังจากหายหน้าหายตาไปจากโซเชียลหลายวัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีประเด็นร้อนกับ นายชูวิทย์ กลมวิศษฎ์ ผลัดกันออกมาแฉ โดยทนายตั้มเริ่มเปิดศึกด้วยการ แฉชูวิทย์ เรื่องเงินในถุงกระดาษ หรือ แฉไปไถไป ซึ่งต่อมา ชูวิทย์ก็ตอบโต้ด้วยการ แฉทนายตั้ม ด้วยใบเสนอราคาค่าแถลงข่าว หรือ แถลงไปไถไป จนเกิดการแบ่งพักแบ่งพวกในโลกโซเชียล แต่งานนี้ดูเหมือนคณะทัวร์จะไปลงที่ฝั่งทนายษิทรามากกว่า
ล่าสุด ทนายตั้ม กลับมาพูดถึงประเด็น สวนชูวิทย์ ซึ่งกำลังเป็นข้อถกเถียงในสังคมอยู่ตอนนี้ว่า หลายสิบปีก่อนได้ติดตามข่าว “ที่ดินบาเบียร์” ของพี่ชูวิทย์ ที่ให้คนไปรื้อจนถูกดำเนินคดี จำได้ว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องพี่ชูวิทย์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุก ก็สู้คดีมาตลอดแต่พอถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกาจู่ๆพี่ชูวิทย์ก็แถลงรับสารภาพ! ตอนนั้นจำได้ผมพึ่งเป็นทนายได้ไม่นาน การที่จู่ๆจำเลยปฎิเสธมาตลอด จะรับสารภาพตอนนั้นก็งงเหมือนกัน ทำได้ด้วยเหรอ แล้วศาลจะลดโทษให้ไหม?
- ทนายตั้มเดินหน้าแฉชูวิทย์ ไม่กลัวถูกฟ้อง 100 ล้าน สาบานไม่ได้รับงานแก๊งเว็บพนัน
- ชูวิทย์ หอบเงิน 6 ล้าน จุดธูปสาบาน! ถวายของให้สัมภเวสี
- ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ฝากถึงสัมภเวสี ประโยคนี้โคตรแรง!
หลายคนอาจจะเคยได้ยินทนายรุ่นเก่าๆพูดว่า การรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ส่วนมากศาลจะไม่ลดโทษให้ คำนี้ติดหูผมมาก ระหว่างที่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปนั้น นักกฎหมายสมัยนั้นก็วิจารณ์เรื่องนี้กันไปต่างๆนาๆ บ้างก็ว่าไม่น่าจะทำได้ บ้างก็ว่าเป็นสิทธิของจำเลย พอถึงวันฟังคำพิพากษาปรากฎว่าศาลฎีกาลดโทษให้ โดยเหตุผลหนึ่งคือ จำเลยได้มีการนำที่ดินพิพาทไปทำประโยชน์เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้ได้ โดยไม่ได้นำที่ดินไปทำธุรกิจแสวงหาผลกำไรอีก บ่งบอกว่าจำเลยรู้สึกสำนึกผิด นับว่ามีเหตุปราณี เห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสม พิพากษาแก้จากจำคุก 5 ปี ให้เหลือแค่ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ได้ลดโทษมา 3 ปี เหนาะๆ เพราะให้ที่เป็นสาธารณะประโยชน์
ผมถึงรู้สูตรนี้ว่า จำเลยสามารถกลับคำให้การชั้นฎีกา และลดโทษได้ ถ้ามีเหตุผลดีๆ ก็เลยลักจำเอาคดีที่ทนายของพี่ชูวิทย์ใช้วิชาขั้นเทพนี้มาประยุกต์ใช้บ้างเมื่อไม่นานมานี้ผมพึ่งรู้ข่าวว่าที่ดินที่พี่ชูวิทย์อุทิศให้คนกทม.ไว้ใช้เพื่อสาธารณะ ตอนนี้กำลังพัฒนาให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่าหลายพันล้าน ก็ตกใจเพราะนักกฎหมายทุกคนทราบดีว่า ถ้าแค่พูดว่ายกที่ดินให้สาธารณะมันจะโอนทันที โดยไม่ต้องจดทะเบียน และไม่สามารถถอนคืนการให้ได้
เรื่องนี้ท่านผู้ว่าฯชัชชาติ และกรุงเทพมหานคร ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ทำความจริงให้ปรากฎ ไม่อย่างนั้นคนที่อยู่แถวนั้นและเคยใช้ประโยชน์กับสวนชูวิทย์อาจจะรวมตัวกันไปฟ้องคดีต่อศาลเอง เพื่อทวงคืนปอดของคนกรุงเทพฯซึ่งสามารถทำได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้น พี่ชูวิทย์จะใช้อภินิหารทางกฎหมายท่าไหน เอาที่ดินที่ยกให้สาธารณะไปแล้ว มาเป็นของครอบครัวตัวเองได้อีก เรื่องนี้คงจะถกเถียงกันอีกนาน จนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลฎีกาตัดสินเป็นแนวทางต่อไป
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY