หากติดเชื้อโควิด กลุ่มไหน อาการขนาดไหน ต้องได้ยาอะไร ? รวมไว้ที่นี่แล้ว

Home » หากติดเชื้อโควิด กลุ่มไหน อาการขนาดไหน ต้องได้ยาอะไร ? รวมไว้ที่นี่แล้ว
ติดเชื้อโควิด ต้องได้ยาอะไร

กรมการแพทย์ ได้ออกมาเผย ออกแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา หากติดเชื้อโควิด กลุ่มไหน อาการขนาดไหน ต้องได้ยาอะไร ?
รวมไว้ที่นี่แล้ว

หากติดเชื้อโควิด ต้องได้ยาอะไร กรมการแพทย์ ได้ออกมาเผย ออกแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุงใหม่ ครั้งที่ 24 วันที่ 11 ก.ค. 2565 โดยระบุรายละเอียดไว้ดังนี้

การรักษา COVID-19
ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (Probable case) ผู้ที่มีผลตรวจ ATK ต่อ SARS-CoV-2 ให้ผลบวก และรวมผู้ติดเชื้อยืนยัน
ทั้งผู้ที่มีอาการและไม่แสดงอาการ แบ่งเป็นกลุ่มตามความรุนแรงของโรคและปัจจัยเสี่ยงได้เป็น 4 กรณี ดังนี้

1. ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือสบายดี (Asymptomatic COVID-19)
ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยแยกกักตัวที่บ้าน (Out-patient with self Isolation)
ให้ดูแลรักษาตามอาการตามดุลยพินิจของแพทย์ ไม่ให้ยาต้านไวรัส เช่น favipiravir
เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง อาจพิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจรตามดุลยพินิจของแพทย์

2. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงโรคร่วมสำคัญ และภาพถ่ายรังสีปอดปกติ (Symptomatic COVID-19 without pneumonia and no risk factors for severe disease)
อาจพิจารณาให้ favipiravir ควรเริ่มยาโดยเร็วที่สุด ตามดุลยพินิจของแพทย์
หากตรวจพบเชื้อเมื่อผู้ป่วยมีอาการมาแล้วเกิน 5 วัน และผู้ป่วยไม่มีอาการหรือ
มีอาการน้อยอาจไม่จำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส เพราะผู้ป่วยจะหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

3. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือ ผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบ (pneumonia) เล็กน้อยถึงปานกลางยังไม่ต้องให้ oxygen

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ได้แก่
1) อายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไป
2) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) (GOLD grade 2 ขึ้นไป) รวมโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ
3) โรคไตเรื้อรัง (CKD) (stage 3 ขึ้นไป)
4) โรคหัวใจและหลอดเลือด (NYHA functional class 2 ขึ้นไป รวมโรคหัวใจแต่กำเนิด)
5) โรคหลอดเลือดสมอง
6) เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
7) ภาวะอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 90 กก. หรือ BMI 230 กก/ตร.ม.)
8) ตับแข็ง (Child-Pugh class B ขึ้นไป)
9) ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ (เป็นโรคที่อยู่ในระหว่างได้รับยาเคมีบำบัดหรือยาตกภูมิหรือ
corticosteroid equivalent to prednisolone 15 มก./วัน นาน 15 วัน ขึ้นไป)
10) ผู้ติดเชื้อเอซไอวี ที่มี CD. cell count น้อยกว่า 200 เชลล์/ลบ.มม.
แนะนำให้ยาต้านไวรัสเพียง 1 ชนิด โดยควรเริ่มภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการจึงจะได้ผลดี ให้ยาตาม
ตารางที่ 1 โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ ได้แก่ ประวัติโรคประจำตัว ข้อห้ามการใช้ยา ปฏิกิริยาต่อกันของยา
ต้านไวรัสกับยาเดิมของผู้ป่วย (drug-drug interaction) และการบริหารเตียง ความสะดวกของการให้ยารวมถึง
ปริมาณยาสำรองที่มี

ขอบคุณรูปภาพจาก กรมการแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข
  • ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด! ติดโควิด รวมช่องทางการรักษาในช่วงนี้ไว้ให้แล้ว
  • ย้ำอีกครั้งขั้นตอน บัตรทอง ประกันสังคม รักษาโควิดฟรีทุกสิทธิพร้อมช่องทางติดต่อ
  • ประยุทธ์ ลั่น โควิด BA.4 – BA.5 ไม่อันตราย ชี้อนุทิน เป็น 4-5 วันก็หายแล้ว

4. ผู้ป่วยยื่นยันที่มีปอดอักเสบที่มี hypoxia (resting Q, saturation <94% ปอดอักเสบรุนแรง ไม่เกิน 10 วัน
หลังจากมีอาการ และได้รับ oxygen

a) แนะนำให้ remdesivir โดยเร็วที่สุดเป็นเวลา 5-10 วัน
ขึ้นกับอาการทางคลินิก ควรติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิต
b) ร่วมกับให้ corticosteroid ขนาดยา ตังตารางที่ 2

ขอบคุณรูปภาพจาก Freepik

ข้อมูลจาก: กรมการแพทย์

ข่าวอื่น ๆ Bright Today

Website : https://www.brighttv.co.th/
Facebook : https://www.facebook.com/BrightTodayOfficial
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/101753

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ