หมอปลา พร้อมพระมหาไพรวัลย์ ลงพื้นที่สำนักหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล ที่ อ.ปะคำ บุรีรัมย์ ที่ตกเป็นข่าวรักษาโควิดได้ เกิดความชุลมุนอลหม่านขึ้นทั้งลูกสาวครูที่ตามมาหาแม่ ทั้งเมียหมอปลาไปทะเลาะกับลูกศิษย์

หลังจากลูกสาวครูชาวจังหวัดชัยภูมิ ร้องเรียนว่าแม่ตัวเองซึ่งมีอาชีพครู หลงงมงายกับพระรูปหนึ่งที่ตั้งสำนักอยู่ที่ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ และเกรงว่าแม่น่าจะถูกพระหลอกเพราะเงินเดือนแม่ร่วม 1 แสนบาทไม่เหลือ ถึงขั้นสร้างสำนักไว้หลังบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ทำให้โลกโซเชียลแบ่งออกเป็นสองฝ่าย

ฝ่ายหนึ่งอ้างหลวงปู่หลอกลวงชาวบ้าน ทำให้งมงาย อีกฝ่ายระบุว่า หลวงปู่ไม่ทำให้ชาวบ้านต้องเดือนร้อน ซ้ำยังสอนให้เป็นคนดี จึงมีคนมาเลื่อมใส หลังจากตกเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ล่าสุดวานนี้ (18 เม.ย.) หมอปลา และพระมหาไพรวัลย์ เดินทางไปยังสำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่พำนักของชาย อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีการแต่งกายคล้ายพระแต่ผ้าเป็นสีดำ ที่อ้างตัวเป็นหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล เพื่อต้องการมาสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และอยากทราบถึงต้นสังกัดของลัทธิดังกล่าวว่ามีความเชื่อมโยงกับศาสนาพุทธอย่างไร

ในเวลาต่อมา น.ส.เอ๋ ลูกสาวของครูชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่เคยไปร้องเรียนต่อสื่อให้มาตรวจสอบ เดินทางมาที่สำนักของหลวงปู่ พร้อมกับแฟนหนุ่ม แต่บังเอิญขับรถสวนทางกันระหว่างปากทางเข้าสำนักฯ กับถนนใหญ่

ทันใดนั้น น.ส.เอ๋ ตัดสินใจจอดรถขวางทางรถของลูกศิษย์หลวงปู่เอาไว้ เพราะทราบว่าแม่อยู่ในรถของหลวงปู่ซึ่งกำลังขับรถออกไปจากสำนัก เนื่องจากมีนักข่าวและชาวบ้านเดินทางมาเป็นจำนวนมาก โดย น.ส.เอ๋ จะให้แม่เดินทางกลับบ้านกับตนเอง

ทั้งนี้ น.ส.เอ๋ พยายามให้แม่ลงจากรถ แต่ทั้งหลวงปู่และแม่ น.ส.เอ๋ ไม่ยอมลงมาจากรถ ท่ามกลางนักข่าวจากหลายสำนักมาล้อมรถเพื่อต้องการสอบถามข้อเท็จจริงเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง หลวงปู่ ลูกศิษย์ และแม่ น.ส.เอ๋ จึงเดินลงมาจากรถ

จากนั้นหลวงปู่ได้มานั่งที่แคร่ไม้ มีนักข่าวตั้งข้อซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลากหลายเหตุการณ์ ทันใดนั้น ภรรยาหมอปลา ได้เข้าไปนั่งบนแคร่กับหลวงปู่ฯ ทำให้ลูกศิษย์หลวงปู่ไม่พอใจ กล่าวหาว่าตีตนเสมอ จึงเกิดการโต้เถียงกันจนเกิดความวุ่นวายขึ้นถึง 2 ครั้ง

หลังจากนั้น จึงมีการนั่งคุยร่วมกันทุกฝ่ายทั้งหมอปลา พระมหาไพรวัลย์ น.ส.เอ๋ และลุกศิษย์หลวงปู่ แต่ไม่สามารถยุติกันได้ ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างเหตุผลคนละแนวทาง

โดยพระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า จากที่พูดคุยกัน ชายที่อ้างตัวเองว่าเป็นหลวงปู่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส พยายามอ้างเหตุผลซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ทิ้งปัญหาให้ลูกศิษย์เป็นคนตอบแทนหรือรับผิดชอบแทนทั้งหมด การบริจาค การสร้างอิทธิฤทธิ์ อ้างเป็นผู้วิเศษ จะออกมาจากปากของลูกศิษย์ ทั้งที่น่าจะรู้กัน

ขณะที่ หมอปลา ย้ำว่าเรื่องดังกล่าวมีผู้นำหมู่บ้านให้ท้าย จึงอยากจะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เข้ามาตรวจสอบเรื่องทั้งหมด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการ “หลอกลวงประชาชน”

ด้าน น.ส.เอ๋ ลูกสาวครูชาวจังหวัดชัยภูมิ บอกว่า ที่ผ่านมาคอยดูพฤติกรรมของแม่มาโดยตลอด ทั้งเสียเงิน เสียเวลา ไม่อยากให้แม่ต้องมางมงายแบบนี้อีก และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการโดยเร็ว ก่อนชาวบ้านจะถูกหลอกลวงไปมากกว่านี้