วันที่ 11 มี.ค. บลูมเบิร์ก รายงานว่า นาย หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จะก้าวลงจากตำแหน่ง ซึ่งจะหมดวาระในเดือนมี.ค.2566 สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่ามกลางคำถามเกี่ยวกับอนาคตของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
นายหลี่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในการแถลงข่าวประจำปีเมื่อวันศุกร์ เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับความสำเร็จในทศวรรษของนายหลี่ในฐานะเจ้าหน้าที่หมายเลข 2 ของจีน ทั้งนี้ ในประเทศจีน นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำสภาแห่งรัฐและดูแลกระทรวงต่างๆ ขณะที่ประธานาธิบดีทำหน้าที่เป็นประมุขแห่งรัฐ แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังเป็นหัวหน้าพรรคและทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วย
“คุณบอกว่าปีนี้เป็นปีสุดท้ายในวาระปัจจุบันของรัฐบาลจีน” นายหลี่ อายุ 66 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สภาประชาชนแห่งชาติในกรุงปักกิ่ง “ปีนี้ยังเป็นปีสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของข้าพเจ้าด้วย”
จีนกำลังเตรียมการสำหรับการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำระดับสูงของพรรค แม้ว่านายสี จิ้นผิง จะเป็นคาดหวังดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำในสมัยที่ 3 ต่อจากนี้ หลังยกเลิกข้อจำกัดในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเมื่อปี 2561 แต่ทางการจีนยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับแผนการของนายสี
“ผมมั่นใจว่า ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยสหายสี จิ้นผิงเป็นแกนหลัก ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากภาคส่วนต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำงานหนักร่วมกันของคนจีนทั่วประเทศ เศรษฐกิจของจีนจะสามารถเอาชนะความยากลำบากได้ เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายและภารกิจสำคัญทั้งหมดสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตลอดทั้งปี และวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต” นายหลี่กล่าว
ทั้งนี้ นายหลี่ยังดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกหมายเลข 2 ของคณะกรรมการประจำสูงสุดของกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขายังมีอายุน้อยพอที่จะรักษาอำนาจได้ แม้จะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สี จิ้นผิง ตระเวน “เยี่ยมชาวบ้าน” ถามไถ่ทุกข์สุข-ชื่นมื่นนับถอยหลังฉลองตรุษจีน