หลังจากที่สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ หรือ มนตรีซีเกมส์ ได้ลงมติแก้ไขธรรมนูญข้อบังคับครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 62 ปี ทั้งเรื่องบรรจุชนิดกีฬาที่จะใช้แข่งขันซีเกมส์ให้เน้นแต่กีฬาสากล รวมถึงอีเวนต์ ที่มีในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์และเอเชียนเกมส์เป็นหลัก ขณะที่กีฬาพื้นบ้านจะมีได้ไม่เกิน 4 ชนิดกีฬา ชิงชัยได้กีฬาละ 8 เหรียญทองเท่านั้น โดยจะเริ่มต้นในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแก้กฏเรื่องของนักกีฬาโอนสัญชาติ หรือ โยกสัญชาติ ที่เห็นได้ชัดในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ที่ผ่านมา
ล่าสุด “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย เผยว่า ส่วนตัวตนคิดว่าไม่เหมาะสมในเรื่องของการนำนักกีฬาจากชาติอื่นมาแข่งขัน อย่างครั้งนี้ไม่ได้เรียกว่าการโอนสัญชาติ แต่เหมือนเป็นการใช้วิธีซื้อตัวมาเล่น ซึ่งปกติแล้วควรต้องมีกฏว่าต้องพำนักอยู่ในประเทศนั้นๆกี่วัน หรือกี่ปีถึงจะลงแข่งขันได้ แต่ครั้งนี้ขอแค่มีพาสปอร์ตของชาตินั้นๆก็สามารถลงแข่งขันได้เลย ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก
“เราพยายามแก้ไขในเรื่องนี้ ที่ประชุมมนตรีซีเกมส์ก็พยายามแก้กฏเรื่องชนิดกีฬาที่บรรจุแข่งขัน เรื่องของอีเวนต์ชิงเหรียญรางวัล แต่ในเรื่องของนักกีฬาโอนสัญชาติ หรือโยกสัญชาตินั้นหลายชาติยังไม่ขอร่วมโหวตให้มีการเลื่อนไปก่อนในโอกาสหน้า ซึ่งปัญหานี้อาจจะยังคงอยู่ในซีเกมส์ต่อไปหากยังไม่มีการลงมติเกิดขึ้น”