ผัก 4 ชนิดที่เต็มไปด้วยสารพิษ ไม่ได้ช่วยบำรุงร่างกาย แต่กลับทำลายอวัยวะภายในและเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง แต่หลายคนกลับไม่รู้
การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารสมดุลและดีต่อสุขภาพนั้นไม่สามารถขาดผักและผลไม้ได้ แต่ไม่ใช่ผักทุกชนิดหรือวิธีการปรุงผักจะดีต่อสุขภาพ ในความเป็นจริง มีผัก 4 ชนิดที่เต็มไปด้วยสารพิษ ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่ช่วยบำรุงร่างกาย แต่ยัง “ดึงโรค” เข้าสู่ตัวเราได้อีกด้วย อาทิ
-
ถั่วงอกไม่มีราก
แม้ว่าถั่วงอกไม่มีรากจะดูขาวสะอาด อวบอิ่ม และดูน่ากิน แถมราคาถูก แต่ไม่ดีต่อสุขภาพเลย หากรับประทานมากเกินไปหรือบ่อยๆ อาจทำลายอวัยวะภายในและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
เนื่องจากถั่วงอกชนิดนี้ถูกปลูกโดยการแช่น้ำและใช้สารกระตุ้นการเจริญเติบโตเพื่อเร่งให้โตเร็ว ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แม้ว่าจะให้ผลกำไรสูงแก่ผู้ผลิต แต่ในกระบวนการนี้มันจะดูดซึมสารพิษและได้รับการกระตุ้นจากสารเคมีมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
-
มะเขือเทศดิบยังไม่สุก
มะเขือเทศที่สุกเต็มที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่หากรับประทานมะเขือเทศที่ยังดิบและไม่สุก จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะมันมีสารอัลคาลอยด์ในปริมาณสูง โดยเฉพาะสารพิษอย่างโซลานีน ซึ่งส่งผลเสียต่ออวัยวะภายใน โดยเฉพาะตับและกระเพาะอาหาร หากรับประทานเป็นเวลานานอาจทำให้การทำงานของอวัยวะเหล่านี้เสื่อมลง และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด
การรับประทานมะเขือเทศดิบอาจทำให้เกิดอาการพิษจากโซลานีนและโทมาไดดีน หากรับประทานในปริมาณเล็กน้อยอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย แต่หากรับประทานในปริมาณมากหรือบ่อยครั้งจะทำให้เกิดการพิษที่อันตรายได้
อาการพิษจากมะเขือเทศดิบมักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายไหล อ่อนเพลีย และอาการอื่น ๆ ในกรณีร้ายแรงอาจถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต โชคดีที่สารพิษในมะเขือเทศจะลดลงและหายไปเมื่อมะเขือเทศสุกแดง
-
ขิงเน่า แม้เพียงเล็กน้อย
ขิงเน่ามีสารพิษชื่อว่า ซาฟรอล ซึ่งสามารถทำให้เกิดมะเร็ง เมื่อเข้าสู่ร่างกาย มันจะทำให้เซลล์บางส่วนในร่างกายเสื่อมสภาพและตาย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับและมะเร็งหลอดอาหาร
ดังนั้นเมื่อขิงเน่าแม้เพียงเล็กน้อย ควรทิ้งมันไปดีกว่าเก็บไว้เพื่อใช้ เพราะการตัดเพียงส่วนที่เสียแล้วใช้ส่วนที่เหลืออาจไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีการศึกษาแสดงว่า เมื่อขิงเสียสารพิษจะกระจายไปทั่วทั้งหัวขิง ไม่ใช่แค่ในส่วนที่เน่า ดังนั้นไม่สามารถตัดทิ้งได้ทั้งหมด
-
มันฝรั่งที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือเริ่มงอก
อย่าเสียดายที่กินมันฝรั่งที่มีจุดสีเขียวหรือเริ่มงอก เพราะในช่วงนี้แป้งในมันฝรั่งจะเปลี่ยนเป็นสารโซลานีนและชาโคนีน-อัลฟา ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถทำให้เกิดอาการพิษได้ สารพิษเหล่านี้จะสะสมอยู่ในบริเวณที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวและบริเวณที่งอกของมันฝรั่ง และกระจายไปทั่วทั้งหัวมันฝรั่ง แม้จะตัดส่วนที่งอกออกและปรุงสุกแล้วก็ไม่สามารถขจัดสารพิษเหล่านี้ได้ทั้งหมด
หากรับประทานในปริมาณน้อย สารพิษจากมันฝรั่งที่เริ่มงอกหรือเปลี่ยนเป็นสีเขียวอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหารเล็กน้อย เช่น ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย
แต่หากรับประทานมากขึ้น อาจเกิดปัญหาทางระบบประสาทและปัญหาทางเดินอาหารที่รุนแรง เช่น อาการเบลอ ท้องเสียรุนแรง ขยายรูม่านตา มีไข้เป็นพัก ๆ ภาพหลอน ปวดหัว ช็อก อุณหภูมิร่างกายต่ำลง อัมพาต ช้า หายใจลำบาก ความดันเลือดต่ำ ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหายใจล้มเหลว และหากหญิงตั้งครรภ์รับประทานเข้าไปอาจทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้