เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.สำโรงเหนือ พร้อม อาสาสมัครมูลนิร่วมกตัญญู เข้าไปตรวจสอบและช่วยเหลือยายหลานคู่หนึ่งในห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยด่านสำโรง 20 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากได้รับแจ้งว่ามียายหลานคู่หนึ่งทำร้ายร่างกายกันจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา เวลา 21.30 น.วันที่ 10 มิถุนายน 2567
พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบว่ามี เยาวชนสาว อายุ 17 ปี ( เบอลหน้า ) สมมุติว่า ชื่อยุ้ย แล้วกัน เจ้าหน้าที่พบว่าน้องยุ้ย มีบาดแผลแตกที่ศีรษะเลือดไหลนองใบหน้า จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะพาส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา ส่วนอีกคนเป็น คุณป้า อายุ 57 ปี ชื่อว่า คุณป้ามีณา ของสงวนนามสกุล พบว่ามีบาดแผลเล็กน้อยที่กลางศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลแต่คุณป้าไม่ขอไปที่โรงพยาบาล นอกจากนั้นจากการตรวจสอบที่พื้นบ้านพบหยดเลือดเต็มพื้นบ้าน รวมถึง มีดปลอดผลไม้ และ สากกะเบือ วางอยู่ในอ่างล้างมือภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการพูดคุยสอบถาม คุณป้ามีณา ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณป้ามีณา เล่าทั้งน้ำตาคลอเบ้าด้วยเสียงสะอื้ออย่างเสียใจ บอกกับนักข่าวเราว่า ตนเองทำงานรับจ้างรายวันจนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง จำนวน 6,100 บาท แล้วเอาซุกไว้ใต้ที่นอน เพื่อตั้งใจว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อรถเข็นมาไว้ค้าขายหารายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะตนเองต้องหาเงินส่งเสียหลานทั้งหมด 3 คน ทั้งบ้านพักกันอยู่รวม 4 คน มีตนเองและหลาน ๆ
พอมาวันนี้ตั้งใจจะเอาเงินก้อนนี้ไปจ่ายค่ารถเข็นที่จะไปซื้อ แต่พอมาเปิดใต้ที่นอน ก็ถึงกับเข่าทรุดหมดแรง เพราะเงินหายไปหมดเกลี้ยง พอเอ่ยปากถามหลานทั้งสามคนก็ไม่มีใครยอมรับ เค้นถามก็ไม่มีใครยอมรับ แต่ก็สงสัยหลานสาวคนกลาง ซึ่งคนอื่นจะไม่เคยขโมย หากไม่มีจะมาขอตลอด จึงตัดสินใจไปหาตำรวจที่โรงพักสำโรงเหนือเพื่อลงบันทึกประจำวันและให้ทางตำรวจช่วยเค้นสอบถามหลานสาวคนกลางที่ต้องสงสัย แต่ฝ่ายหลานสาว กลับมีอารมณ์โมโหใส่แถมพูดจากถากถางตนเอง ด้วยคำว่า หากตัวเองไม่ได้เป็นคนเอาไป ยายต้องก้มกราบเท้าหลานนะ ซึ่งคำนี้ทำให้ตนเองทำให้ตนเองเจ็บซ้ำน้ำใจและน้อยใจหลานแท้ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดจนเติบใหญ่ กลับไม่สำนึกในบุญคุณที่มีให้
หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันเสร็จก็พากันกลับบ้าน พอมาถึงบ้าน เจ้าหลานสาวตัวดีก็ยังพูดตอกย้ำซ้ำ ๆ ว่า หากตนเองไม่ได้ขโมยไปยายต้องกราบเท้าด้วยนะ ทำให้ตนเองทั้งโกรธและโมโหหลาน จึงคว้าสากกะเบือไม้ฟาดไปที่หัวหนึ่งครั้ง แต่หลานกลับคว้ามีฟันมาที่กลางหัวจนเจ็บ และ มีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วย
ขณะที่หลานสาว บอกว่า ตนโดนสากกะเบือฟาด ยายเป็นคนฟาด เพราะว่าเงินเขาหาย แต่ยายมาโทษตน ตนก็เลยพูดกับยายไปว่า ถ้าตนไม่ได้เอาไป มากราบตีนตนไหม ของาม ๆ นะ แล้วเขาก็มาพูดว่าตนอีก ก่อนจะหยิบสากกะเบือมาฟาดหัวตนมา 1 ที ตนก็เลยผลักตัวยายออก แล้วพูดว่าทำทำไม ก่อนที่ตนจะหยิบมีดมาตีเขา ไม่ได้แทง แต่ยายบอกว่าตนแทงยาย
เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเรื่องเงิน เงินเขาหาย จำนวน 6,000 บาท เขาบอกว่าเขาเอาไว้ใต้ที่นอน แล้วเขาก็โทรเรียกตน ตัวตนเองไม่ได้นอนอยู่กับเขา จะนอนแยกห้องกัน ตนก็บอกกับยายว่าตนไม่ได้อยู่บ้าน จะเอาเวลาไหนไปหยิบ เพราะตนทำงานทุกวัน จะมีวันหยุดแค่วันอังคาร วันหยุดตนก็ไม่ได้อยู่บ้าน กลับมาก็กลับมาพร้อมเขา พอวันอังคารเป็นวันหยุดของตนพรุ่งนี้ เขาก็ชวนตนไปซื้อของ แต่ตนบอกว่าตนไม่ไป ตนจะนอน แล้วเขาก็เลยบอกว่าตนอาจจะเอาเงินของเขาตอนนั้น
ซึ่งทางด้านตำรวจได้ทำประวัติและเรื่องราวทั้งหมดไว้แล้ว รอสอบปากคำอีกครั้งว่าประสงค์จะดำเนินคดีหรือไม่หรือจะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างใด