หลอกแม่ผู้ต้องหา เคลียร์คดีได้ ไปถึงโรงพักกลับไม่กล้า แถมทำเงินหาย-รีดเพิ่ม ตร.ซ้อนแผนจับ

Home » หลอกแม่ผู้ต้องหา เคลียร์คดีได้ ไปถึงโรงพักกลับไม่กล้า แถมทำเงินหาย-รีดเพิ่ม ตร.ซ้อนแผนจับ



หลอกแม่ผู้ต้องหา เคลียร์คดีได้ ไปถึงโรงพักกลับไม่กล้า เพราะจำนวนยาบ้าเยอะเกิน แถมทำเงินหาย-รีดเพิ่ม บอกจะไปประตัวที่ศาลให้ ตร.ซ้อนแผนจับ

วันที่ 3 พ.ค.65 นางจอมมณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกชายอ้างสนิทกับตำรวจ สามารถพูดคุยต่อรองกับตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดให้ลดจำนวนยาบ้าของลูกชายที่โดนจับได้ ทำให้ตนหลงเชื่อจ่ายเงินไป 2.5 หมื่นบาท แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ และไม่ยอมคืนเงิน แถมยังโทรมาขอเงินอีก 2 หมื่นบาท เพื่อจะนำไปประกันตัวชั้นศาล คิดว่าโดนหลอกเอาเงินแน่นอน จึงมาพบและขอคำปรึกษา

นางจอมมณี กล่าวว่า เมื่อบ่ายวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี 5 นาย ไปจับกุม นายคมสัน อายุ 33 ปี ลูกชายตน พร้อมของกลางยาบ้า 298 เม็ด ขณะมั่วสุมเสพขายยาบ้าที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านหนองใส หมู่ 3 ต.หนองนาคำ ต่อมาได้มีชายขี่รถจยย.มาหาตนที่บ้าน อ้างว่าสามารถไปต่อรองกับตำรวจชื่อ “บอส” ให้ลดจำนวนยาบ้าของกลางลงได้ แต่ขอค่าดำเนินการ 25,000 บาท

ตนจึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี นายประสิทธิ์ ถิ่นน้ำใส จำนวน 6,500 บาท และให้เงินสด 19,000 บาท แต่ลูกชายยังถูกดำเนินคดี ซึ่งตนพอจะรู้แล้วว่าช่วยไม่ได้ แต่ชายคนเดิมยังโทรมาหาตนบอกว่าจะช่วยไปประกันตัวชั้นศาล และขอเงินค่าดำเนินการอีก 2 หมื่นบาท ตนจึงมาปรึกษาตำรวจว่าจะทำอย่างไรกับมิจฉาชีพที่หากินกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน

จากนั้น พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ ได้ประสานไปยัง พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ให้ตรวจสอบหาตัวชายที่อ้างว่าสามารถเคลียร์กับตำรวจเพื่อลดจำนวนยาบ้าได้ และจากการตรวจสอบชื่อที่จดทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้โทรติดต่อกับ นางจอมมณี ระบุชื่อ นายประสิทธิ์ ถิ่นน้ำใส อายุ 33 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งตรงกับบัญชีที่โอนเงินให้ ตำรวจจึงให้ นางจอมมณี เข้าไปแจ้งความ พร้อมกับวางแผนจับกุม ด้วยการโทรนัดให้ นายประสิทธิ์ มารับเงิน 2 หมื่นบาทที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี

ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดหมาย นายประสิทธิ์ ขี่รถจยย.ผ่านมาแต่ไม่ยอมจอด และโทรมาหา นางจอมมณี เปลี่ยนจุดนัดพบใหม่ เป็นลานจอดรถร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยตำรวจชุดสืบสวนได้ไปดักซุ่มบริเวณดังกล่าว พอ นายประสิทธิ์ ขี่รถจยย.ไปจอดหน้าร้าน ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด และรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามา

นายประสิทธิ์ อ้างว่า ทำงานเป็นเซลล์ขายอุปกรณ์ก่อสร้างบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี วันเกิดเหตุตนเห็นตำรวจจับ นายคมสัน ซึ่งเป็นเพื่อนกัน จึงไปหา นางจอมมณี เพื่อแนะนำวิธีการช่วยเหลือ นายคมสัน ด้วยการอาสานำเงิน 2.5 หมื่นบาท ไปเจรจากับตำรวจชุดจับกุมให้ลดจำนวนยาบ้าลง แต่พอมาถึงโรงพักก็พบว่ามียาบ้าจำนวนมาก จึงไม่กล้าเข้าไปเจรจา ก่อนขี่รถกลับปรากฏว่าเงินหล่นหาย 1 หมื่นบาท และยังนำเงินไปซื้อไก่ชน 6,500 บาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้จ่ายในครอบครัว และวันนี้ไม่ได้ตั้งใจมาเอาเงินเพิ่ม แต่ตั้งใจพา นางจอมมณี ไปประกันตัวลูกที่ศาลจริงๆ ส่วนเงินที่เอาไปก่อนหน้านี้ก็ตั้งใจจะเอามาคืน แต่ยังไม่ได้คืนก็มาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า นายประสิทธิ์ แอบอ้างว่าสามารถเคลียร์คดีได้ และจะล้มคดีได้โดยใช้เงิน 25,000 บาท ซึ่ง พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ได้สั่งกำชับเด็ดขาดห้ามตำรวจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่ช่วยเหลือผู้ต้องหายาเสพติด ซึ่งตำรวจทุกคนได้ทำตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ