![หยุดเคี้ยวน้ำแข็งไม่ได้? หมอเตือน อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่แฝงอยู่ หยุดเคี้ยวน้ำแข็งไม่ได้? หมอเตือน อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่แฝงอยู่](https://s.isanook.com/ns/0/ud/1944/9720646/new-thumbnail1200x720(5)(1).jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
การเคี้ยวน้ำแข็งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แฝงอยู่ แถมอาจทำให้ฟันมีปัญหาร้ายแรงได้
เมื่อก้นแก้วเต็มไปด้วยน้ำแข็งที่ลอยวนอยู่ มันอาจเป็นสิ่งเย้ายวนใจและให้ความรู้สึกเพลิดเพลินเมื่อเคี้ยวกรุบ ๆ แต่การเคี้ยวน้ำแข็งเล่นเป็นครั้งคราวแตกต่างอย่างมากจากการมีนิสัยเคี้ยวน้ำแข็งเป็นประจำ
การเคี้ยวน้ำแข็งอาจเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพฟัน และแพทย์ยังชี้ว่ามันอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจอีกด้วย นี่คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต้องการให้คุณพิจารณาเกี่ยวกับพฤติกรรมการเคี้ยวน้ำแข็ง รวมถึงเหตุผลว่าทำไมทุกคนควรคิดให้รอบคอบก่อนจะเคี้ยวน้ำแข็ง
ทำไมคนถึงเคี้ยวน้ำแข็ง?
เหตุผลมีหลากหลาย บางครั้งคุณอาจเคี้ยวน้ำแข็งเพียงเพราะมันอยู่ตรงนั้น แต่ถ้าคุณมีความอยากเคี้ยวน้ำแข็งเป็นประจำ นั่นมักเป็นสัญญาณว่าร่างกายของคุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพบางอย่าง
การอยากเคี้ยวน้ำแข็งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพที่ควรใส่ใจ
ดร.ซาราห์ บาวท์เวลล์ ผู้อำนวยการแผนกเวชศาสตร์ทั่วไปแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวกับ Yahoo Life ว่า “การอยากกินน้ำแข็งจัดว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะพิก้า (Pica) ซึ่งคือการบริโภคสิ่งที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ดิน แป้ง หรือดินเหนียว” หากผู้ที่มีภาวะพิก้าชอบกินน้ำแข็ง เราเรียกอาการนี้ว่า Pagophagia ตามที่ เทแกน แมนซูรี ผู้อำนวยการโปรแกรมวิทยาศาสตร์โภชนาการแห่งมหาวิทยาลัยบัฟฟาโลกล่าว
แม้จะไม่ชัดเจนว่ามีผู้ที่มีภาวะ Pagophagia มากเพียงใด แต่รายงานบางฉบับชี้ว่าอาการนี้พบได้บ่อยแต่แทบไม่มีการรายงาน
การอยากกินน้ำแข็งอาจเป็นสัญญาณของภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก แม้ ดร.บาวท์เวลล์จะกล่าวว่าเหตุผลที่แน่ชัดยังไม่เป็นที่เข้าใจ “ดูเหมือนจะมีการหลั่งโดปามีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี ทำให้ผู้ป่วยยังคงอยากกินน้ำแข็งต่อไป”
ด้านศาสตราจารย์ธีอา แกลลาเกอร์ จาก NYU Langone Health กล่าวเสริมว่า การเคี้ยวน้ำแข็งอาจเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากความย้ำคิดย้ำทำ หรือเพื่อปลอบประโลมตนเอง นอกจากนี้ หากมีการใช้การกินน้ำแข็งแทนอาหารที่ให้พลังงาน อาจเป็นสัญญาณของโรคการกินผิดปกติได้
แกลลาเกอร์ย้ำว่า “สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่าการเคี้ยวน้ำแข็งนั้นมีหน้าที่หรือความหมายอย่างไรสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมนี้”
ผลกระทบของการเคี้ยวน้ำแข็งต่อฟัน
แม้การเคี้ยวน้ำแข็งจะดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่เห็นพ้องว่ามันส่งผลเสียต่อฟันอย่างร้ายแรง
ดร.มาร์ก วูล์ฟ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า “น้ำแข็งเป็นวัสดุที่แข็งมาก” พร้อมเปรียบเทียบการเคี้ยวน้ำแข็งเหมือนกับการพยายามกัดกระดูก
“การเคี้ยวน้ำแข็งอาจทำให้เกิดรอยร้าวเล็กหรือใหญ่บนฟันได้” วูล์ฟกล่าว และหากคุณมีการอุดฟัน การเคี้ยวน้ำแข็งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยร้าวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การเคี้ยวน้ำแข็งยังอาจทำให้ข้อต่อขากรรไกร (TMJ) เสียหายได้อีกด้วย “การลงแรงกดอย่างหนักที่ข้อต่อสำหรับการเคี้ยวอาจก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด และในบางกรณีอาจเกิดความเสียหายถาวร” วูล์ฟกล่าว
จากมุมมองด้านทันตกรรม ไม่มีวิธี “ปลอดภัย” ในการเคี้ยวน้ำแข็ง “ฟันไม่ใช่เครื่องมือ” วูล์ฟเตือน “มนุษย์ไม่ควรใช้ฟันเปิดขวดหรือถุง ทำลายน้ำแข็ง หรือกัดกระดูก”
cottonbro studio
วิธีสังเกตว่าการเคี้ยวน้ำแข็งของคุณเป็นอันตรายหรือไม่
พฤติกรรมการเคี้ยวน้ำแข็งของคุณเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยหรือกำลังส่งผลเสียต่อสุขภาพ? มีปัจจัยบางอย่างที่ควรพิจารณา
“เราควรพิจารณาความถี่และความรุนแรง รวมถึงความรู้สึกเมื่อคุณไม่สามารถเคี้ยวน้ำแข็งได้” แกลลาเกอร์กล่าว หากคุณรู้สึกว่าการเคี้ยวน้ำแข็งรบกวนชีวิตประจำวัน หรือพบว่าตัวเองใช้เวลาไปกับการคิดว่าจะได้เคี้ยวน้ำแข็งอีกเมื่อไหร่ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
การเคี้ยวน้ำแข็งและข้อควรระวังเกี่ยวกับสุขภาพ
“พิกา (Pica) มักถูกวินิจฉัยเมื่อมีการอยากบริโภคสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร เช่น น้ำแข็ง เป็นเวลานานเกินหนึ่งเดือน” แมนซูรีกล่าว “แต่ถ้าคุณมีอาการอยากน้ำแข็งร่วมกับอาการอื่น เช่น อ่อนเพลีย สมาธิสั้น มือเท้าเย็น หายใจลำบากเมื่อออกแรง หรือปวดศีรษะบ่อย ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที”
บูตเวลล์เน้นว่าคุณไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลหากเคี้ยวน้ำแข็งบ้างเป็นครั้งคราว “การเคี้ยวน้ำแข็งบางครั้งถือว่าเป็นเรื่องปกติและไม่ใช่ปัญหา” แต่ถ้าคุณเคี้ยวน้ำแข็งทุกวัน นั่นอาจเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ
หากกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมนี้ บูตเวลล์แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีภาวะขาดธาตุเหล็กหรือไม่ หากพบว่าเป็นปัญหา มักจะรักษาได้ด้วยการเสริมธาตุเหล็กทางปากหรือทางหลอดเลือด
ในกรณีที่การเคี้ยวน้ำแข็งเป็นเรื่องทางจิตวิทยา แกลลาเกอร์ระบุว่า การบำบัดพฤติกรรมทางความคิด (Cognitive Behavioral Therapy) ซึ่งเน้นการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม อาจช่วยได้ “วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณค้นหากลยุทธ์ในการรับมือที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น หากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นผลจากความเครียด”
แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าควบคุมพฤติกรรมนี้ได้ แพทย์ส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าไม่เป็นปัญหา “การเคี้ยวน้ำแข็งเล็กน้อยเป็นครั้งคราวไม่น่าจะส่งผลเสีย” วูล์ฟกล่าว