หมอไต้หวัน เตือน 3 พฤติกรรม “ทำร้ายตับ” มากกว่าการนอนดึก ถ้าไม่เลิก ไม่ช้าก็เร็งโรคมะเร็งจะมาเยือนในที่สุด
ตามคำกล่าวของ นายแพทย์ฮวงซวน จากไต้หวันตับเป็นอวัยวะสำคัญในการล้างพิษ แต่ก็ไม่ใช่ “เกราะกำบัง” ที่จะทนทานต่อการทำลายได้เสมอไป แม้ว่าตับจะมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองได้ดีเยี่ยม แต่เมื่อถูกทำลายมากเกินไป ตับก็ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมตัวเองได้ทัน
ในบรรดาพฤติกรรมที่ทำลายตับ การนอนดึกถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด หมอฮวงซวน อธิบายว่า ตับทำงานได้ดีที่สุดเมื่อร่างกายได้นอนหลับลึก โดยเฉพาะในช่วงเวลา 23.00 – 03.00 น. การนอนดึกทำให้การทำงานของตับผิดปกติ เพิ่มการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน สร้างสารพิษ และกระตุ้นเซลล์คุปเฟอร์ทำให้เกิดการอักเสบของตับ ไขมันพอกตับ หรือแม้กระทั่งมะเร็งตับ
อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า ยังมีอีก 3 นิสัยที่ทำลายตับได้เร็วกว่าแค่การนอนดึก ซึ่งหลายคนยังคงทำอยู่
1. การใช้ยาเกินความจำเป็น
หลายคนคิดว่าการใช้ยาเพียงส่งผลต่อกระเพาะอาหาร แต่ไม่รู้ว่าตับเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ตับมีหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงยาหลายชนิด แล้วขับออกผ่านน้ำดีหรือปัสสาวะ เมื่อใช้ยาเกินความจำเป็น รวมถึงยาบำรุง ตับต้องทำงานหนักเกินไป จึงทำให้เสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพในการขจัดสารพิษ
การสะสมของยาในร่างกายเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการพิษจากยาและทำลายตับอย่างรุนแรง ดังนั้นควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาด้วยตนเองโดยไม่จำเป็น
2. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับเกิดความเสียหาย เมื่อดื่มเข้าไป 10% ของแอลกอฮอล์จะถูกขับออกทางเหงื่อ ลมหายใจ และปัสสาวะ ส่วนที่เหลือ 90% ต้องผ่านตับเพื่อขจัดสารพิษ การทำเช่นนี้เป็นเวลานานจะทำให้ตับเกิดการติดพิษ เสื่อมสภาพ และเซลล์ตับค่อยๆ สูญเสียไป
ในระยะแรก การดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดการอักเสบของตับและไขมันพอกตับ แต่หากยังคงดื่มต่อไป ตับจะได้รับความเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูได้และอาจพัฒนาไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับ ดังนั้นการจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นวิธีสำคัญในการปกป้องตับ
3. การรับประทานอาหารที่มีเชื้อราขึ้น
เพื่อประหยัดหรือขาดความรู้ หลายคนยังคงรับประทานอาหารที่มีเชื้อราโดยไม่รู้ว่าเป็น “ศัตรู” ของตับ เชื้อราบางชนิดสร้างสารพิษ เช่น Aflatoxin, Patulin, Fumonisin ที่สามารถทำให้เซลล์ตับเสื่อมสภาพ ตาย และเกิดมะเร็งตับ
โดยเฉพาะ Aflatoxin ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อราที่มักพบในถั่วลิสง ข้าวโพด เมล็ดแตงโม และธัญพืชที่มีเชื้อรา ถูกองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าเป็นสารก่อมะเร็งตับที่รุนแรง เพียงแค่ปริมาณ 10 มิลลิกรัมก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้ สารพิษนี้ไม่สามารถกำจัดออกได้อย่างสมบูรณ์แม้จะตัดส่วนที่มีเชื้อราหรือปรุงสุกอาหารแล้วก็ตาม
นอกจากอาหารที่มีเชื้อราแล้ว การรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก อาหารจานด่วน และอาหารดองเค็ม ก็สามารถทำร้ายตับได้ไม่แพ้การนอนดึก ดังนั้นเพื่อปกป้องตับ ควรรักษาอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล