.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
หมอแล็บฯ โพสต์เตือนโรคติดต่อ “ไข้อีดำอีแดง” อธิบายคืออะไร ติดต่อผ่านทางไหน มักเจอในเด็กอายุเท่าไหร่ หลังล่าสุดระบาดจนบาง รร.ประกาศหยุดแล้ว!
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า เตือนกรณี “ไข้อีดำอีแดง” ระบาด ล่าสุดบางโรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนแล้ว
โดยคุณหมออธิบายเพิ่มเติมว่า ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัสชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี แบคทีเรียชนิดนึ้สร้างสารพิษได้ ทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่าน
- การไอหรือจาม
- การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก
- การใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังติดเชื้อ คือมีไข้สูง, เจ็บคอ อาจมีหนองหรือจุดเลือดออกที่ต่อมทอนซิล, ผื่นแดงสากคล้ายกระดาษทราย เริ่มจากลำตัวและกระจายไปแขนขา มักไม่ขึ้นที่ใบหน้า แต่แก้มจะแดงและมีวงซีดรอบปาก, ลิ้นแดงเป็นปุ่มๆคล้ายสตรอเบอร์รี่ และอาการอื่น ๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น และปวดท้อง
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรีย จึงรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งถ้าไม่รักษาอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคไข้รูมาติก หรือหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ ถ้าพบการระบาดก็ควรให้หยุดเรียน หรือแยกตัวเด็กป่วยออกจากคนอื่นจนกว่าได้ยาปฏิชีวนะไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไป
- ช็อตดังเปรี๊ยะ!!! ร่างกายไฟฟ้าสถิต หมอแล็บฯ เฉลยมีวิธีแก้ง่ายๆ รู้งี้ทำนานแล้ววว
- ขนลุก หนุ่มโพสต์รูปพยาธิ 3 เมตรหลุดจากก้น หมอแล็บตอบชัดกิน “สุกๆดิบๆ” ถือว่าดิบไหม?