หมอเวียดนามเปิดโลก “เมล็ดอมตะ” คือถั่วชนิดนี้ ที่ไทยมีขายเกลื่อน แต่คนไม่รู้ประโยชน์ที่แท้จริง
นพ. หวูเยิ่นตัน (Huỳnh Tấn Vũ) แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชศาสตร์ โฮจิมินห์ (แห่งที่ 3) ออกมาเปิดเผยว่า “ถั่วลิสง” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Arachis hypogaea L. ถือเป็น ซูเปอร์ฟู้ด หรือ อาหารที่ให้ประโยชน์สูงต่อร่างกาย ถั่วลิสงหารับประทานได้ง่าย แต่มีคนน้อยนักที่รู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของมัน
จากการวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่ พบว่าถั่วลิสงมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ 3-5%, โปรตีน 20-30%, ไขมัน 40-50%, แป้ง 20% และสารอนินทรีย์ 2-4% นอกจากนี้ยังมีน้ำมันถั่วลิสงที่ประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว เช่น กรดโอเลอิก, กรดไลโนเลอิก, กรดปาล์มิติก และอื่นๆ
นพ. หวู กล่าวว่าถั่วลิสงถือเป็น “ซุปเปอร์ฟู้ด” เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นมากกว่า 30 ชนิด เช่น ไนอะซิน, โฟเลต, ใยอาหาร, วิตามินอี, แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังมีสาร Resveratrol (เรสเวอราทรอล) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี ส่งเสริมระบบหมุนเวียนโลหิตและทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยน้ำมันและพืชน้ำมัน น้ำมันถั่วลิสงมีแคลอรีสูงและเป็นแหล่งพลังงานที่ดีมาก สารเรสเวอราทรอลในน้ำมันถั่วลิสงช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ รวมถึงช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
ในแง่ของแพทย์แผนจีน นพ. หวูกล่าวว่าทุกส่วนของต้นถั่วลิสงสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ เช่น ลำต้น, ใบ, ผล, น้ำมัน และเยื่อหุ้มเมล็ดถั่วลิสง ในประเทศจีน ถั่วลิสงถูกเรียกว่า “เมล็ดอมตะ” เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก (นพ.หวู ใช้คำว่า hạt trường sinh แปลเป็นภาษาไทยว่า เมล็ดพันธุ์แห่งความเป็นอมตะ)
ตามการวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่ ถั่วลิสงช่วยเพิ่มพลังงาน บำรุงร่างกาย ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด และช่วยหยุดเลือดออก
อย่างไรก็ตาม นพ. หวูแนะนำให้ใช้ถั่วลิสงอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องเสีย หรือในกรณีที่ถั่วขึ้นรา อาจส่งผลเสียต่อตับ เนื่องจากมีสารพิษแอลฟลาท็อกซิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในตับ