หมอแม่สอดเล่าเคสปาฏิหาริย์ ผู้ป่วยโควิดปอดขาวโพลน ทุกคนคิดว่าไม่รอด แต่ผู้ป่วยกำลังใจดี บอกสามีว่า “ให้กลับไปรอที่บ้าน ไม่นานจะได้กลับไป”
(17 ก.ย.64) เฟซบุ๊ก Nuttagarn Chuenchom ของ หมอเบียร์ แพทย์โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก ได้โพสต์เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 เปิดเผยเคสคนไข้โควิดรายหนึ่งเข้ามารักษาด้วยอาการเชื้อลงปอด อาการโคม่า ซึ่งทางหมอและพยาบาลเห็นตรงกันว่าเคสนี้ไม่น่ารอด แต่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ยกให้เป็น “ผลงานชิ้นโบว์แดงที่สุดในแก๊งนอนคว่ำของหมอ”
คุณหมอเล่าว่า “เมื่อ 4 วันก่อน พยาบาลมาเล่าให้ฟังว่ามีคนไข้ผู้หญิงชาวเมียนมาคนหนึ่งหอบเหนื่อยมากมีคนพามาส่งที่ห้องฉุกเฉิน วัดค่าออกซิเจนที่ปลายนิ้วได้ 40-50% หอบแฮ่กๆ หมอหมอเวรห้องฉุกเฉินสั่งทำเอกซเรย์ปอดและตรวจ ATK ทันที ผลปรากฎเป็นบวก และเอกซเรย์คือแย่มากๆ ขาวโพลนไปหมดไม่มีส่วนดำปกติเลย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้ดีว่าปอดโควิดแบบนี้คงไม่รอด เธออายุ 30 ต้นๆ เอง บ้านเธออยู่ไหน คนที่มาส่งก็ไม่ใช่ญาติเลยสักคน และเธอไม่มีโทรศัพท์ พยาบาลที่จุดคัดกรองตามเจ้าหน้าที่ NGO ของ M-fund มาเพื่อขอความช่วยเหลือ ช่วยไปตามสามีคนไข้มาให้หน่อย ในชุมชนชาวเมียนมาแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงพยาบาล
ตอนนั้นก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว มืดก็มืด ศูนย์เปลก็แต่งชุด PPE เรียบร้อยเพื่อเข็นคนไข้ไปที่ตึกผู้ป่วยโควิด พยาบาลขอร้องศูนย์เปลให้รออีกหน่อยพี่เขาก็รอทั้งๆ ที่ร้อนมากๆ เจ้าหน้าที่ M-fund หายไปนานมากจน 2 ชั่วโมง จึงกลับมาพร้อมลูกและสามีของคนไข้ พวกเขาดูตกใจมากที่รู้ว่าคนไข้เป็นมากขนาดนี้ ทุกคนช่วยกันแต่งชุด PPE ที่คิดว่าเหมาะสมในการป้องกันการติดเชื้อให้กับสองคนพ่อลูก เราให้เวลาพวกเขาสั้นๆ ไม่เกิน 10 นาทีเพื่อพูดคุยกัน ในใจทุกคนคิดว่านี่คงจะเป็นการร่ำลาครั้งสุดท้าย แต่คนไข้บอกสามีว่าให้กลับไปรอเธอที่บ้านไม่นานเธอจะได้กลับไป พยาบาลบอกว่าวันนั้นเจ้าหน้าที่หลายคนร้องไห้เลยหมอ สงสารคนไข้มากๆ
คนไข้มาถึงวอร์ด อาการแย่หายใจหอบมาก ห้อง ICU เราก็เต็มเอี๊ยด คนไข้จึงได้ใช้ออกซิเจน High flow Oxygen 100% ได้ยาทุกอย่างและเข้าแก๊งนอนคว่ำของหมอเบียร์ หมอก็สงสารคนไข้มากที่ต้องทุกข์ทรมานจากอาการเหนื่อยจึงให้ยามอร์ฟีนเพื่อบรรเทา เธออดทนมาก วันแรกเธอสั่นไปทั้งตัว จับขอบเตียงเกร็งไปหมด ซึมๆ ถามไม่ตอบ วันต่อมาเธอนิ่งมากขึ้น หายใจดีขึ้นมาก ไม่มีอาการเกร็ง วันต่อมาเธอเริ่มพูดได้ กินข้าวเมื่อเจ้าหน้าที่ป้อน
และวันนี้เธอลุกขึ้นมากินข้าวเอง พระเจ้า!!!! อาการคนไข้ดีขึ้น ดูฟิล์มเอกซเรย์ก็ดีขึ้น หมอดีใจน้ำตาไหล เธอคือผลงานชิ้นโบว์แดงที่สุดในแก๊งนอนคว่ำของหมอ คว่ำจ้าคว่ำ..คนไข้คนไหนไม่คว่ำ หมอไม่รักนะจ๊ะ (ผู้ป่วยโควิดที่นอนคว่ำจะมีค่าออกซิเจนในเลือดดีขึ้น) หมออนุญาตให้นอนหงายเฉพาะเวลากินข้าวและเวลาเมื่อยแค่นั้นแหละ ผู้ป่วยส่วนใหญ่งอแง แต่หมอจะบอกให้อดทนหมอบอกว่า ถ้าเธอนอนคว่ำ เธอจะได้ไปเจอลูกอีกครั้ง ฉันคิดว่านอกจากอภินิหารนอนคว่ำและยามากมายที่ให้เธอไป อภินิหารกอดสุดท้ายของลูกและสามีในวันนั้นคือ แรงใจที่ดีที่สุดที่เธอยึดเหนี่ยว เธอต้องรอด เธอคิดโฮงบาลแม่สอดของเรามันมีเสน่ห์ตรงนี้
บางทีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานก็อาจจะพูดไม่หวาน ไม่เพราะ เพราะพวกเราทำงานแข่งกับเวลา ทำงานภายใต้ความเครียดทั้งแบบเฉียบพลันและสะสม ทำงานแบบ non-stop ไม่ได้พักเลยจริงๆ แต่ที่หมอเบียร์สัมผัสได้ตลอดมา คือ พวกเราเป็นคนดี มีคุณธรรม มีความเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะเชื้อชาติเผ่าพันธุ์อะไร ยากดีมีจนอย่างไร ขอให้รักษาความดีงามทั้งหมดนี้ไว้ มีหลายเหตุการณ์ที่ผ่านไป นึกถึงเมื่อไหร่ก็อมยิ้มได้ทุกทีค่ะ
มันคือความสุขแบบอวลๆ มาลุ้นไปกับเธอนะคะ ลุ้นให้เธอได้กลับบ้านกันค่ะ”