ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “อนุชิต นิยมปัทมะ” ของ นายแพทย์อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของผู้ป่วยโควิดพ่อ-ลูก คู่หนึ่งที่รับเข้ามารักษาในหอพักผู้ป่วย ICU ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาว่า

หอผู้ป่วยหนัก icu ที่มีพยาบาลอายุน้อยที่สุดแค่ 3 ขวบ วันก่อนรับโทรศัพท์ขอ refer จาก รพ.อำเภอ ผู้ป่วยชายอายุ 44 ปี ติดเชื้อ covid ลงปอด มีอาการหอบเหนื่อยมาก ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ขอย้ายมาใช้เครื่องช่วยหายใจ high flow

ตอนแรกก็รับมาไม่คิดอะไร รับมา อีกห้านาที น้องหมอที่ รพ.อำเภอโทรมาอีกว่า ขอให้รับน้องเด็ก 3 ขวบ จาก รพ.อำเภอมาด้วย เพราะเป็นพ่อลูกกัน ลูกก็ติดcovid แต่เด็กอาการไม่หนัก แม่เด็กก็เป็น covid ปอดอักเสบ อยู่โรงพยาบาลในกรุงเทพ อาการหนักเหมือนกัน

สรุป ก็รับส่งตัวมาทั้งพ่อและลูก มาหอผู้ป่วยหนัก ซึ่งปกติ หอผู้ป่วยหนัก ไม่ได้ให้ใครเฝ้า

แต่เด็กน้อยก็ติดเชื้อเหมือนกันแต่ไม่หนัก เด็กน้อยไม่รู้ไปอยู่ไหนดี ผมไม่อยากแยกพ่อแยกลูกกัน

ลืมเรื่องกฎระเบียบ เพิ่มความเป็นมนุษย์ คุณพ่อดูเหนื่อยมาก ใช้เครื่องช่วยหายใจ High flow แต่สติยังดี แม้ลุกดูลูกไม่ไหว แต่ก็พยายามลุกมาชงนมให้ลูกกิน แม้ตัวเองจะเหนื่อยมาก

เห็นแล้วน้ำตาคลอ เด็กน้อย ก็เป็นพยาบาลส่วนตัว คอยดูคุณพ่ออยู่ไม่ห่าง ลูกเอ๋ย 3 ขวบ

ในฐานะคนเป็นพ่อเหมือนกัน อยากบอกว่า สู้ๆนะครับ ผมก็ทำหน้าที่ผมให้ดีที่สุดเหมือนกัน

ล่าสุด วันนี้ (3 สิงหาคม 2564) ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายแพทย์อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้รับการประสานมาจากโรงพยาบาลต่างอำเภอ ว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 เป็นชายวัย 44 ปี มีอาการปอดอักเสบรุนแรง ค่าออกซิเจนในเลือดน้อย ต้องการเครื่องช่วยหายใจด่วน จึงได้รับผู้ป่วยรายนี้มา

แต่ทางโรงพยาบาลต้นทางบอกว่า ผู้ป่วยรายนี้มีลูกสาววัย 3 ขวบ ซึ่งติดโควิดมีอาการไม่รุนแรง และติดพ่อมากด้วย จึงขอให้รับมาอยู่ด้วยกันกับพ่อ ดังนั้นตนเองจึงได้ทำเรื่องขออนุญาตทาง รพ.มหาราชฯ เพื่อขอรับผู้ป่วยเด็กรายนี้มาอยู่ในห้อง ICU ด้วย ซึ่งปกติจะไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยสีเขียวเข้ามาอยู่ แต่เคสนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะลูกสาวจะร้องไห้งอแง หากอยู่ห่างจากพ่อ อีกอย่างแม่ของเด็กก็ติดโควิด-19 อาการหนัก พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน กทม.ด้วย

เมื่อตนเองเห็นภาพนี้แล้ว ด้วยความที่มีลูกอ่อนเหมือนกัน จึงรู้สึกสะเทือนใจมาก ยิ่งในช่วงที่เด็กนำกระดาษทิชชู่ไปเช็ดน้ำตาให้ผู้เป็นพ่อ ก็ยิ่งทำให้แทบจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว สงสารเด็กมาก ส่วนพ่อนั้นก็อาการอ่อนแรง พูดโต้ตอบไม่ได้ เพราะผลจากการเอกซเรย์ปอด พบว่าปอดอักเสบอย่างรุนแรงมาก ขณะที่เด็กยังไม่มีอาการลงปอด ยังคงวิ่งเล่นได้ตามปกติ แต่การอยู่ในห้อง ICU ทีมแพทย์เด็กก็ต้องสวมชุด PPE อย่างแน่นหนา ตอนที่ชงนมไปให้เด็ก ซึ่งขณะนี้ทีมแพทย์ก็พยายามรักษาอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้พ่อของเด็กกลับมาแข็งแรงและหายป่วยโดยเร็ว

แต่หากพบว่าพ่อเด็กมีอาการหนักมากกว่านี้ ก็คงจะต้องแยกตัวเด็กออกมา เพราะเราไม่ต้องการให้เด็กเห็นภาพที่น่าสลด ถึงอย่างไรก็ตามขณะนี้อาการของพ่อเด็กยังคงทรงตัว ไม่แย่ลงและไม่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยทีมแพทย์จะต้องตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง