หมอเตือนสาวๆ ให้หมอกระเป๋าฉีดขยายเต้านม สุดท้ายกลายเป็นศพ ซิลิโคนอุดตันเส้นเลือด

Home » หมอเตือนสาวๆ ให้หมอกระเป๋าฉีดขยายเต้านม สุดท้ายกลายเป็นศพ ซิลิโคนอุดตันเส้นเลือด
หมอเตือนสาวๆ ให้หมอกระเป๋าฉีดขยายเต้านม สุดท้ายกลายเป็นศพ ซิลิโคนอุดตันเส้นเลือด

“หมอสมิทธิ์” เตือนสาวๆ พบเคสฉีดขยายเต้านมกับหมอกระเป๋า ซิลิโคนอุดตันในเส้นเลือดที่ปอด-สมอง สุดท้ายเสียชีวิต

นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์นิติเวช โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Smith Fa Srisont โดยระบุว่า มีเรื่องเตือนภัยที่อยากแจ้งให้ทราบครับ เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยได้รับการฉีดขยายเต้านม จากหมอกระเป๋า (น่าจะเป็นหมอปลอมเพราะเช็คแล้วไม่เจอชื่อในระบบแพทยสภา)

โดยผู้ฉีดใหัอ้างว่าเป็นคอลลาเจน หลังฉีดมีอาการเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ไหวต้องแอดมิดรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเสียชีวิต

ผลการผ่าชันสูตร พบว่า เป็นภาวะ ซิลิโคนอุดตันในเส้นเลือดที่ปอดและสมอง ดังนั้น คือผู้ป่วยรายนี้ ถูกฉีดซิลิโคนเข้าเต้านม และเป็นการฉีดผิดวิธีจนเข้าสู่เส้นเลือด

ผมจึงอยากเตือนภัยและแนะนำ คนที่จะไปฉีดหรือเคยไปฉีดขยายเต้านมกับหมอกระเป๋าแบบนี้ ให้ระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลย

นอกจากนี้ยังอยากเรียกร้องให้ญาติของผู้เสียชีวิต ที่เค้าอยากฟ้องร้องคนฉีดผิดแบบวิธีแบบนี้ แต่ไม่มีเงินจ้างทนาย หรือติดตามคดี เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นคนฉีด (พอได้ข้อมูลบ้าง แต่ยังไม่ชัดเจน) หรือทำการฉีดที่ไหน ต้องการให้มีคนช่วยสืบเพิ่มเติม

เรื่องแบบนี้เคยเกิดเมื่อห้าปีก่อนแล้ว จึงอยากมาเตือนภัยครับ เพราะก็จะวนกลับมาใหม่ได้อีกแบบนี้

ทั้งนี้ นพ.สมิทธิ์ ยังได้ตอบในคอมเมนต์ต่อข้อสงสัยว่า มีหน่วยงานกลางไหนคอยรับเรื่องการทำผิดหลักการรักษาของแพทย์ โดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์จริงๆ บ้างหรือเปล่า เพราะกลายเป็นว่าหมอกระเป๋าทำผิดซ้ำซาก เข้าคุกแปปๆ ออกมาทำใหม่แบบไม่เกรงกลัวสิ่งใด

โดย นพ.สมิท ระบุว่า “ปัจจุบันส่วนใหญ่ก็จะเป็นตำรวจเจอ โดยมีคนมาร้องทุกข์ แล้วตำรวจสอบถามมาที่แพทยสภาว่าหมอจริงหรือปลอม มีกรณีที่แพทยสภาเจอแล้วแจ้งตำรวจก็มี แต่เอาตรงๆ คือระบบโดยรวมในการจัดการยังไม่ดี เพราะระบบร้องทุกข์ในแพทยสภาเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน หรือร้องไปแพทยสภาก็ไม่มีอำนาจลงโทษ ต้องติดต่อตำรวจ ส่วนตำรวจถ้าเจอเคสแบบนี้ ก็ต้องมาถามแพทยสภาอีก”

และอีกข้อความหนึ่งว่า “อันนี้เห็นด้วยว่าโทษน้อยมาก ทั้งๆ ที่มันทำให้คนตายได้ นี่คือโทษ ที่ไม่ได้เปลี่ยนมานานกว่า 40 ปีแล้ว”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ