"หมอเตี๋ยว" น้องชาย "หมอแอ้ม" เผยโควิดพราก 3 ชีวิตในครอบครัว วอนแก้กฎนำเข้าวัคซีน

Home » "หมอเตี๋ยว" น้องชาย "หมอแอ้ม" เผยโควิดพราก 3 ชีวิตในครอบครัว วอนแก้กฎนำเข้าวัคซีน

จากกรณี น.อ.หญิง ดร.พญ.สรัญยา ฬาพานิช หรือ “หมอแอ้ม” แพทย์หญิง รพ.ภูมิพลฯ ติดเชื้อโควิดเสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไปแล้ว 

  • “หมอแอ้ม” แพทย์หญิง รพ.ภูมิพลฯ ติดโควิดเสียชีวิต สุดอาลัยหญิงแกร่งแห่งกองบิน

ล่าสุด นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช หรือ หมอเตี๋ยว น้องชายของหมอแอ้ม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก AVELA Clinique ถึงกรณีการเสียชีวิตของพี่สาว โดยเรียกร้องให้รัฐเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ นำเข้าวัคซีนเอง เพื่อให้คนไทยเข้าถึงวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด

“เคสพี่สาวผม (น.อ.หญิง ดร.พญ.สรัญยา ฬาพานิช) เป็นแพทย์ที่เเม้จะฉีดวัคซีนไปแล้วก็ยังติดเชื้อโควิดและเสียชีวิต ครอบครัวเราเสียชีวิตจากโควิด ตอนนี้ สามชีวิตครับ คือคุณแม่ เมื่อ 25/7 คุณพ่อ 31/7 แล้วก็พี่สาว เมื่อวานนี้ ผมคิดว่าผมมีสิทธิที่จะพูดความรู้สึก และความต้องการที่เห็นสถานการณ์โควิด ในประเทศปัจจุบันนี้ผมเองไม่อยากจะโทษวัคซีนใดๆ ว่าดีหรือไม่ดี เพราะ หลายยี่ห้อฉีดครบก็มีเสียชีวิตครับ

“แต่โดยหลักทางวิชาการที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั่น ชนิด mRNA หรือ Subunit Protien น่าจะเป็นคำตอบที่ดีในเบื้องต้นนี้ครับ และแม้ว่าวัคซีนที่น่าจะครอบคลุมทุกเชื้อน่าจะเป็นล็อตของปีหน้า แต่เรารอแบบนั้นไม่ได้นะครับ เราต้องมีวัคซีนที่มาตรฐานจำนวนมากกว่าที่มีตอนนี้ครับ

“ปัญหาของเราคือ กฎที่ออกว่า ใครจะซื้อต้องผ่านหน่วยงานรัฐ ผมเองไม่มั่นใจในเรื่องกฎหมายเท่าไรนัก แต่ผมคิดว่า ถ้าเราสามารถออกกฎแบบที่ ราชกิจจาฯ ที่ให้ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์นำเข้าได้ ก็น่าจะออกให้บรรดา โรงพยาบาลเอกชน หรือ องค์กรเอกชน สามารถนำเข้าได้ ถ้าไม่เชื่อใจโรงพยาบาลเอกชนที่ใด ก็ผ่านตัวสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ก็น่าจะเป็นสมาคมใหญ่ในระดับที่น่าเชื่อถือได้นะครับ

“การนำเข้าวัคซีนที่ยอมรับ ในต่างประเทศมามากที่สุด เท่าที่ทำได้ ในทุกๆ ทาง โดยไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์ ผ่านหน่วยงานรัฐ น่าจะอนุโลมให้ใช้ในสถานการณ์ ที่คนไทยได้ฉีดวัคซีนเพียง 25% (นี่คือรวมเชื้อตายและ mRNA) ของประชากร เพราะวัคซีนยิ่งเยอะ (โดยเฉพาะพวก mRNA และ Subunit Protein) มันก็จะยิ่งดีไม่ใช่หรือครับ มันน่าจะถึงเวลาที่เราควรแก้บางกฎ เพื่อให้คนไทยได้วัคซีน “ที่มาตรฐาน” ที่จะพอป้องกันตัวเองได้ อย่างน้อย เราก็พอมองเห็นทางสว่างข้างหน้าครับผมเชื่อว่า ถ้าออกกฎที่แก้ได้ จะมีบริษัท หรือ โรงพยาบาลมากมาย หรือแม้แต่หน่วยงานใดๆ ที่จะยินดีติดต่อเอง และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ อย่างรวดเร็วเพราะเราเสียเวลามามากเกินไปแล้วครับ กับคำว่ารอ วัคซีนที่มาตรฐานครับ เปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ นำเข้าวัคซีนเองเถอะครับ มีมากดีกว่ามีไม่พอนะครับ”

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ