สยอง! หมอเล่าเคสลืมไม่ลง คนไข้จมูกเหม็นเหมือน “หนูตาย” ส่องดูข้างในยิ่งสะพรึง พยาบาลถึงกับกลั้นอ้วกไม่อยู่
ดร.อู๋ จ้าวกวน ผู้อำนวยการคลินิกหู คอ จมูก จ้าวกวน ซึ่งตั้งอยู่ในไต้หวัน ปรากฎตัวเป็นแขกรับเชิญในรายการทางการแพทย์ “Doctor Is So Hot” เล่าถึงเคสที่สร้างตราตรึงใจให้กับเขาอย่างมาก ถึงกับบอกว่า “ผมต้องบอกว่านี่เป็นเคสที่สุดในรอบกว่า 20 ปีของการเป็นแพทย์ ผมคงจะไม่มีวันลืมมัน”
คุณหมอเล่าถึงกรณีชายวัย 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารในไถจง ในแบบฟอร์มลงทะเบียนพบแพทย์เขาเขียนเหตุผลที่ต้องการตรวจจมูกเพราะ “คนรอบข้างบอกว่าจมูกผมไวเกินไป อยากรู้ว่าผมพิเศษจริงๆ หรือพวกเขาที่พูดผิด” ทันทีที่ได้อ่านข้อความนี้ก็กกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขาในทันที แม้ว่าคนไข้รายนี้จะลงทะเบียนเข้าตรวจนอกเวลาทำการ ซึ่งไม่ใช่เวลางานของเขาแล้ว แต่เขาก็ยังตัดสินใจหารือกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อเข้าร่วมการตรวจเคสนี้ด้วย
ดร.อู๋ เล่าว่า “คนไข้เป็นชายร่างสูง ดวงตาค่อนข้างดุ และสวมหน้ากาก 2 ชั้น ทันทีที่เข้าไปในห้องตรวจส่วนตัวเขาก็เอามือปิดจมูกแล้วบ่นว่ามีกลิ่นหนูตาย และบ่นว่าสุขอนามัยของคลินิกเราแย่มาก ภายนอกพื้นที่รอมีกลิ่นเหมือนปลาเน่าและขยะเน่าเปื่อย และในห้องปิดนี้ก็ยิ่งมีกลิ่นเข้มข้นกว่านั้นอีก เหมือนกลิ่นหนูตายเน่าเปื่อย ผมกับแพทย์อีกคนและพยาบาลสองคนในห้องตกใจมาก เพราะเราได้กลิ่นเหม็นมากเหมือนกัน แต่มันมาจากไข้ชายที่เพิ่งเดินเข้ามาต่างหาก”
และทันทีที่คนไข้ถอดหน้ากากอนามัยออกเพื่อเตรียททำการตรวจจมูก เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั้ง 4 คนในห้องนั้นก็อดไม่ได้ที่จะซ่อนความหวาดกลัวเอาไว้ พยาบาลที่กำลังตั้งครรภ์ถึงกับรีบออกมาอาเจียน เพราะกลิ่นที่ออกมาจากจมูกมันแย่มาก แต่มิสเตอร์แลมเองก็ไม่รู้ตัว คิดอยู่เสมอว่าจมูกของเขาบอบบางเกินไป เขาจึงได้กลิ่นที่ผู้อื่นสัมผัสได้ยาก และรู้สึกถึงกลิ่นที่รุนแรงกว่าปกติมาก เขาภูมิใจมากเพราะเขาคิดว่าเขามีจมูกที่พิเศษ
จมูกอักเสบรุนแรง มีกลิ่นหนูตาย เพราะทำความสะอาดผิดๆ
ดร.อู๋เล่าต่อว่า “เมื่อตรวจจมูกของผู้ป่วยด้วยการส่องกล้อง เราพบว่ารูจมูกทั้งสองข้างเต็มไปด้วยหนองและน้ำมูกสีเหลือง ลึกเข้าไปในโพรงจมูกด้านซ้ายมีสะเก็ดสีดำกองโตผสมกับหนองและเลือด เนื่องจากการอักเสบรุนแรง สิ่งพิเศษคือขนจมูกของเขาสะอาดมากเกินไป เมื่อผมถามอย่างละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับนิสัยสุขอนามัย ผมก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง”
ปรากฏว่าคนไข้มีนิสัยชอบเล็มขนจมูกเป็นประจำ โดยตัดให้แนบชิดกับผิวหนังมาก จุดสำคัญกว่านั้นคือกรรไกรเล็กๆ ที่เขาใช้ตัดขนจมูกก็เป็นเครื่องมือที่ใช้ “ตัดหนังที่เท้า” ด้วย โดยเขามักสวมรองเท้าแตะเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากลักษณะงานของเขาทำให้เกิดส้นเท้าด้านและเชื้อราที่เท้า เขาจึงมักใช้กรรไกรตัดหนังด้านและบริเวณผิวหนังที่เป็นเชื้อราออก และใช้กรรไกรแบบเดียวกันเพื่อเล็มขนจมูกโดยไม่ทำความสะอาดดี แต่เช็ดด้วยกระดาษชำระเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
พฤติกรรมนี้ทำให้เชื้อราเข้าไปในโพรงจมูก ทำให้เกิด “ก้อนเชื้อรา” ขึ้นในจมูก ทำให้เกิดไซนัสอักเสบจากเชื้อรารวมกับแบคทีเรีย ผิวหนังถูกทำลายด้วยกรรไกร และมีกลิ่นเหม็นเหมือนหนูที่ตายแล้ว แต่ในช่วง 6 เดือนที่เขาป่วย เขาไม่รู้ว่ามีกลิ่นมาจากร่างกายของเขา มักคิดว่าพนักงานร้านอาหารทำความสะอาดไม่ดีและตำหนิพวกเขา จนกระทั่งมีพนักงานคนหนึ่งพูดแนะนำอย่างชาญฉลาดว่า ให้เขาลองไปตรวจจมูก เนื่องจากจมูกของเขาไวเกินไป เขาจึงยอมมาตรวจในครั้งนี้และพบสาเหตุของกลิ่นเน่านั้น
เมื่อรู้ความจริงแล้วจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว คนไข้ก็รู้สึกเขินอายมาก และรู้สึกผิดที่กล่าวโทษพนักงานอย่างไม่ถูกต้อง หลังจากนั้นก็กระตือรือร้นในการประสานการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ การผ่าตัดเอาเชื้อราออก และล้างไซนัสอย่างเหมาะสม ส่งผลให้อาการดีขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน