นพ.มนูญ แนะไทยใช้แผนฉีดวัคซีนโควิดแบบเดียวกับในสหราชอาณาจักร เน้นให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างน้อยคนละเข็มก่อน ชะลอฉีดเข็มที่สองออกไปจนกว่าจะมีวัคซีนเหลือพอ

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเสนอแนะความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนการฉีดวัคซีนโควิดไว้อย่างน่าสนใจ ตามรายละเอียดดังนี้

“ยุทธศาสตร์การให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประเทศสหราชอาณาจักรไม่เหมือนประเทศอื่น เน้นการกระจายฉีดวัคซีนหลักซึ่งเป็นของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรกให้กับทุกคน ชะลอการให้เข็มที่ 2 จนกว่าทุกคนจะได้เข็มแรก

ขณะนี้ในประเทศสหราชอาณาจักร หลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเข็มแรก จำนวนคนป่วยเข้านอนโรงพยาบาล และจำนวนคนเสียชีวิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด

จากการทดลองระยะที่ 3 ร้อยละ 76 ของคนที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก พบว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน ประสิทธิภาพไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งได้รับการอนุมัติให้เป็นวัคซีนที่ฉีดเพียงเข็มเดียว ทำให้เชื่อว่าวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าฉีดเข็มเดียว น่าจะได้ผลดีเหมือนวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน วัคซีนของทั้ง 2 บริษัทใช้เทคโนโลยีเดียวกัน คือ ใช้อะดีโนไวรัสเป็นพาหนะนำรหัสพันธุกรรม DNA ของไวรัสโควิด-19 เข้าร่างกายของคน ให้สร้างโปรตีนส่วนที่เป็นหนาม แล้วร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนแปลกปลอมส่วนที่เป็นหนามของไวรัสโควิด-19

มีรายงานผลข้างเคียงลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ล่าสุดมีรายงานผลข้างเคียงเดียวกันเกิดกับวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไม่น่าแปลกใจเพราะวัคซีน 2 บริษัทนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ประโยชน์ของวัคซีนทั้ง 2 บริษัทมีมากมายกว่าความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงซึ่งเกิดขึ้นน้อยมากๆ 1 ในหลายแสนถึง 1 ในล้านเท่านั้น

ขณะนี้แนวทางการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าของแต่ละประเทศที่ร่ำรวยไม่เหมือนกัน บางประเทศให้ฉีดเฉพาะคนอายุมากกว่า 50-60 ปีขึ้นไป บางประเทศให้ฉีดเฉพาะคนอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป บางประเทศให้ฉีดวัคซีนบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าทุกคนเพียง 1 เข็ม ให้ฉีดเข็ม 2 ด้วยวัคซีนของบริษัทอื่น บางประเทศระงับการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าทุกคนชั่วคราว เพราะประเทศร่ำรวยเหล่านี้เข้าถึงวัคซีนหลายชนิด เชื่อว่าในอนาคตวัคซีนบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจะมีเหลือพอให้คนในประเทศที่ไม่ร่ำรวย มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนนี้

ประเทศไทยควรทำตามประเทศสหราชอาณาจักร เน้นฉีดวัคซีนบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าทุกคนๆ ละ 1 เข็ม ประเทศไทยสั่งจองวัคซีนบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามากกว่า 61 ล้านโดส เพียงพอสำหรับฉีดคนที่อยู่ในประเทศไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน ยกเว้นผู้หญิงตั้งครรภ์ ถ้ามีวัคซีนเหลือพอ ค่อยฉีดเข็มที่ 2 แก่คนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว และคนที่เตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศ ผมเชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนในประเทศไทย หยุดยั้งการแพร่ระบาด ดีกว่ายึดแผนเดิมที่ฉีดให้คนครึ่งประเทศคนละ 2 โดส แล้วเหลือคนอีกเกือบครึ่งประเทศไม่ได้ฉีด ปีหน้าทุกคนก็ต้องฉีดวัคซีนเข็มใหม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นของบริษัทเดิม วัคซีนใหม่นี้ต้องครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์และกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ด้วย (ดูรูป)

สำหรับวัคซีนซิโนแวคของประเทศจีนที่ไทยได้มาแล้ว 2 ล้านโดส ต้องฉีดคนละ 2 โดสถึงจะสร้างภูมิคุ้มกัน โดสเดียวไม่เพียงพอ”