เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ หนึ่งใน สมาชิกวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านในรายการ โหนกระแส ถึงประเด็นการโหวตเลือกนายกฯ ของ ส.ว.ว่า ตนเป็นนักวิทยาศาสตร์ จะมองแบบองค์รวมตั้งแต่ครั้งที่แล้วแล้วว่าทำไมต้องมีบทเฉพาะกาล ถูกทำให้เข้าใจง่ายๆ ว่าต้องการนายกฯ เพื่อที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูปให้สำเร็จ เพราะฉะนั้น ถามว่ามีที่ไหนในโลกไหม ไม่มี ณ ตอนนั้นเราถูกเลือกเข้ามาก็เพื่อที่จะทำงานขับเคลื่อน
ถ้าจำได้การเสนอแก้รัฐธรรมนูญ ครั้งแรกก็เป็น 23 คน ตนเป็นหนึ่งในคนที่ยินดี ที่ให้ปิดซะ เพราะเราเห็นว่าหลักการไม่ควรมี และ การเอาเข้าจริงเราก็ไม่เห็นปฏิรูปได้ มันเป็นการขับเคลื่อนโครงการปกติซะเยอะ แต่สิ่งที่เราอยากเห็นและประชาชนอยากเห็นคือการปฏิรูปกระบวนการการยุติธรรม มันไม่เดิน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า ตั้งหลักการไว้ พอมามองในภาพรวมก่อนมีเลือกตั้งใหม่เราก็เห็นว่าทุกคนก็ด่าๆ ถ้ามององค์รวม ก็ไม่ควรมี ส.ว. เลือกนายกฯ ปรากฏว่าอาจารย์ทั้งหลายก็เห็นด้วย พอเลือกตั้งออกมาเห็นด้วย นักวิชาการก็เห็นด้วยว่าให้ ส.ว. เลือก คือเราเป็นคนมองในองค์รวม มองว่ามันยังไม่ถึงจุดนั้น จะมาบอกให้พรทิพย์ตัดสินใจว่าต้องโหวตไม่ถูก ก็ในระบบมันไม่ควรมี แล้วทำไมจู่ๆ เราจะเลือกคนที่เรายังไม่รู้เลยว่าเขาจะทำอะไรบ้าง พรรคมั่นคงไหม ประเทศชาติจะล่มสลายไหม ย่อมต้องบอกว่ายังคงหลักการเดิม
- ณธีภัสร์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล ลาออกจากพรรค หลังมีคดีเมาแล้วขับ!
- “ลุงตู่” ทิ้งโพเดี้ยม ปัดตอบ หลังถูกถาม จะหันหลังให้การเมืองเลย หรือไม่?
- ชาวกัมพูชา เคลมอีก? ลั่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คือลูกหลาน มีหลักฐานคือภาพนี้
เมื่อถามว่าได้คุยกับ ส.ว.คนอื่นบ้างหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวอีกว่า ถ้าเรียนตรงๆ คนอื่นก็เป็นกังวลว่าหมอพรทิพย์ชอบนอกคอก เคยคุยกับคนอื่นว่าทำไม 2 ลุงต้องแยก ไม่มีใครคุยด้วย เลยตอบไม่ได้ว่าคนอื่นเขาคุยไหม ณ วันนี้ยังคงปิดสวิตช์ ถึงวันนั้นค่อยว่ากันในสิ่งที่เกิดขึ้น เรามองในเชิงรวม ไม่ได้กลับไปกลับมา ไม่ใช่เพราะกระแสกดดัน นายกฯที่จะมา นโยบายที่จะมี ต้องทำให้ประเทศชาติรอด นักการเมืองไม่ว่าปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติ เหมือนเดิม
ถามว่าแต่นี่คือฉันทามติของประชาชนที่ต้องเคารพหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า เบื้องต้นการที่พรรคก้าวไกลได้ ก็เคารพ และเห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากของประเทศไทย ซึ่งเป็นการเมืองใหม่ที่ไม่ต้องใช้นายทุนพรรค แต่การที่จะไปถึงวันนั้นว่าโหวตได้ไหมยังตอบไม่ได้ เพราะนโยบาย 10 กว่าข้อไม่ได้รับได้หมด แต่ถามว่า ส.ว.จะเห็นด้วยไหมต้องยอมรับว่าคิดคนละแนว เราทำงานเราอยู่บนธรรมะ ไม่งั้นอยู่ไม่ได้จนตอนนี้
“และธรรมะกับความมั่นคงของแผ่นดินคือพระมหากษัตริย์เนี่ย มันชัด เพราะฉะนั้นการที่เขาไม่ชัดตรงนี้ ดูสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ละคน อย่างไรเราก็มีหน้าที่ต้องทำให้ประเทศชาติอยู่รอด ขอดูความชัด จะเห็นว่าการดีเบตครั้งสุดท้าย เปลี่ยน หรือแก้ไข”
เมื่อถามว่าจะฝากอะไรที่พรรคก้าวไกลหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า เหมือนกับผู้ใหญ่ และเห็นความตั้งใจ ปรารถนาดีของคนรุ่นใหม่ที่จะสร้างสิ่งที่ดี อย่างที่บอกว่าอะไรที่ผ่านมาในอดีต หรือสิ่งที่ตั้งไว้แล้วคลางแคลงใจ และไม่ใช่เรื่องที่จะใหญ่มาก ก็ให้เขาทำให้ชัดเจน บอกแล้วที่ชัดเจนที่สุด เราไม่ต้องการกระทบสถาบัน ถ้าเขาปรับได้ และเข้าหาโดยท่าทีที่ดี
“หลักการนี้ถูกมาก 300 กว่าเสียง ไม่ใช่ว่าจะมีง่ายๆ สมควรได้เป็นรัฐบาลแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุน เมื่อนั้นน่าจะคุยได้กับ ส.ว.”
“ยินดีพูดคุยกันตลอดเวลา เรามองทุกมุม เราไม่ชอบมุมนี้มุมเดียว เหมือนเด็ก ใครไปใส่อะไรให้เขา มีความก้าวร้าวเรื่องนี้ ถ้าคุยกับเขาไว้ทีหลัง อย่าเพิ่งทำ ไม่ติด ความก้าวร้าวของสมาชิกมันชัดมาก เราไม่อาจวางใจได้ ถ้าเขาปรับได้ ไม่ต้องเอามาในรอบนี้” พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
“ก็อยากให้พูดคุย อยากให้ประเทศเดินหน้าได้ เป็นมิตร รับฟังเสียงข้างน้อย”
เมื่อถามว่าจริงๆ แล้ว ส.ว.เป็นกับดักที่รัฐบาลเก่าวางไว้ใช่ไหม พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่าใช่ มีวัตถุประสงค์ ไม่รู้ใครวาง แต่รู้ว่าตั้งมาเพื่อแบบนี้ล่ะ
“ให้คิดให้ยาวว่าถ้าพลิกแผนไป ไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่ทำให้เป็นตามนี้ เลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เหลืออะไรเลย จะเป็นก้าวไกลทั้งหมด”
พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวถึงกรณีที่องค์กรต่างๆ ได้ออกแถลงการณ์ให้ ส.ว. เคารพสิทธิเสียงข้างมากว่า ส่วนตัวกดดัน ใครจะดูไม่ออก 300 กว่าเสียง เป็นสิ่งที่คนกลับไปทบทวนว่าสามารถเปิดประตูคุยกันได้ไหม ไม่ใช่เพื่อว่าเขาต้องเดินเข้ามา แต่ขอไม่เอานโยบายที่จะรุนแรง ไปแตะต้องสถาบัน
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY