หมอผงะ เด็ก 8 ขวบ ได้ยินเสียงแปลกๆ ส่องหูเจอ "ปีศาจ 8 ขา" วางไข่ข้างในอื้อ ไม่ใช่แมงมุม!

Home » หมอผงะ เด็ก 8 ขวบ ได้ยินเสียงแปลกๆ ส่องหูเจอ "ปีศาจ 8 ขา" วางไข่ข้างในอื้อ ไม่ใช่แมงมุม!
หมอผงะ เด็ก 8 ขวบ ได้ยินเสียงแปลกๆ ส่องหูเจอ "ปีศาจ 8 ขา" วางไข่ข้างในอื้อ ไม่ใช่แมงมุม!

เด็กชายวัย 8 ขวบ อาศัยอยู่ในเมืองไถจง ไต้หวัน มีอาการหูอื้อและได้ยินเสียงแปลกๆ ในหูของเขา ตอนแรกครอบครัวคิดว่ามีน้ำเข้าหูขณะอาบน้ำ แต่หลังจากทำความสะอาดด้วยสำลีพันก้าน อาการก็ยังคงไม่ดีขึ้น พวกเขาเริ่มคิดว่าเด็กชายแค่ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์หรือหนังสือนิทานบางเรื่อง แต่เมื่อผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เด็กเริ่มมีอาการนอนไม่หลับและมีไข้ จึงพาไปพบแพทย์เนื่องจากสงสัยว่าเป็นโรคหูน้ำหนวก

ดร.อู๋ จ้าวกวน แพทย์หูคอจมูก ค้นพบความจริงที่ไม่คาดคิด ทำให้ทั้งครอบครัวตื่นตระหนกและเสียใจ ปรากฎว่าลึกเข้าไปในหูของเด็กชายมี “ปีศาจ 8 ขา” ที่กำลังดูดเลือดและออกไข่จำนวนมาก ปิดกั้นและทำให้ช่องหูอักเสบ ปีศาจที่ว่านั่นก็คือ “เห็บ”  โชคดีที่เคสของเด็กชายพบก่อนสายเกินไป ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และไม่มีสัญญาณของโรคติดเชื้อ หลังจากรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเขาก็หายเป็นปกติ

“จากการพูดคุยกับครอบครัว ได้รู้ว่าผู้ป่วยเพิ่งเล่นและนอนกับแมวของญาติ มีความเป็นไปได้สูงมากที่แมวตัวนี้จะเป็นที่มาของเห็บที่เข้าหูของผู้ป่วย เพราะแมลงชนิดนี้มักซ่อนตัวอยู่ในขนของสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข และแมว โดยเห็บเป็นสัตว์ขาปล้องที่มีแปดขา สามารถคลานเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของร่างกาย เช่น หู ต้นคอ หรือขาหนีบ เพื่อดูดเลือดได้ ในระหว่างกระบวนการดูดเลือด พวกมันจะหลั่งยาชาที่ทำให้ผู้ถูกกัดไม่รู้สึกเจ็บปวด ทำให้ยากต่อการตรวจจับ พวกเขาไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการคัน ดูดเลือด และทำให้เกิดการอักเสบเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดโรคติดเชื้อที่เป็นอันตราย เช่น โรคไลม์ ไข้คิว และทูลารีเมีย”

ทั้งนี้ คุณหมอยังให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ต้องสัมผัสกับสัตว์ ควรตรวจสอบสัตว์เลี้ยงทุกครั้งหลังสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่ซ่อนได้ง่าย เช่น หู หรือหลังคอ เมื่อออกไปข้างนอก หากสัมผัสกับหญ้าหรือสภาพแวดล้อมที่มีแมลงจำนวนมาก ให้สวมเสื้อแขนยาวและใช้ยากันยุง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกเห็บโจมตี นอกจากนี้ หากพบว่ามีเห็บกัด จะต้องใช้แหนบค่อยๆ ดึงออก เพื่อไม่ให้ส่วนปากของเห็บเหลืออยู่ในร่างกาย จากนั้นอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เ พื่อหลีกเลี่ยงอันตรายในอนาคต

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ