หมอยังถามเคล็ดลับ หญิงวัย 70 ปี ลดน้ำหนักได้ 7 กิโลกรัมภายในครึ่งปี แถมไขมันพอกตับก็หายไปด้วย เพียงแค่เลิกกิน “อาหารเช้า” 1 อย่าง
เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า เฉียนเจิ้งหง แพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและตับอ่อน ได้โพสต์ในเพจส่วนตัวว่า หญิงชราวัย 70 ปี ได้เล่าอย่างกระตือรือร้นว่า ตั้งแต่เลิกกินแซนด์วิช น้ำหนักของเธอลดลง 7 กิโลกรัม และไขมันพอกตับก็หายไป แม้ว่าเธอจะลดปริมาณอาหารกลางวันและเย็นลง แต่เธอเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงอาหารเช้าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
เมื่อถูกถามว่าตอนนี้กินอะไรเป็นอาหารเช้า? หญิงชราเผยว่าเธอจะซื้อข้าวโอ๊ตจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาปรุงเป็นโจ๊กเค็ม ใส่ผัก เนื้อบด หรือไข่ลงไปด้วย แพทย์เฉียนเจิ้งหง กล่าวว่า สำหรับคุณแม่ส่วนใหญ่ การทำโจ๊กข้าวโอ๊ตสักชามไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ในอดีต พวกเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าการกินแป้งที่มีน้ำมันในตอนเช้าจะทำให้เกิดไขมันพอกตับได้ แม้ว่าข้าวโอ๊ตจะเป็นแป้งเช่นกัน แต่ก็เป็นแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสี มันใกล้เคียงกับต้นแบบของพืชธรรมชาติและน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นอย่างช้า ๆ หลังจากรับประทาน
แพทย์เฉียนเจิ้งหง กล่าวว่า เขามักจะได้คำถามจากผู้ป่วยว่า “ทำไมฉันถึงลดน้ำหนักไม่ได้ทั้งๆ ที่ฉันกินไม่มาก” ซึ่งเขาจะย้อนถามว่า “คุณกินอะไรในมื้อเช้า?” คำตอบส่วนใหญ่ที่เขาได้รับคือแซนด์วิชหรือขนมปัง 1-2 ชิ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาหารจำพวกแป้งขัดสี ที่มีแคลอรีสูง
นอกจากนี้ เขายังเตือนผู้ป่วยว่าขนมปังทำจากแป้งที่ผสมกับน้ำมัน ยิ่งขนมปังนุ่มและอร่อยมากแค่ไหนยิ่งมีน้ำมันมากขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนเป็นกินไข่ต้ม เนื้ออกไก่ บร็อคโคลี และมันเทศ เป็นอาหารเช้า
หลายคนสงสัยว่าแพทย์กินอาหารเช้า? เฉียนเจิ้งหง อธิบายว่า เนื่องจากเขาต้องเตรียมอาหารเช้าให้ลูกในตอนเช้า ด้วยระยะเวลาที่จำกัด สิ่งที่เขากินบ่อยที่สุดคือไข่ต้มที่นึ่งในหม้อไฟฟ้าโดยไม่มีการปรุงรส ร่วมกับขนมปังโฮลเกรนหรือหรือขนมปังเม็ดมะม่วงหิมพานต์
หากมีเวลา เขาจะออกไปกินข้าวนอกบ้าน เช่น ข้าวต้มหมูชีสหรือข้าวปั้นหมู แต่โดยพื้นฐานแล้วเขาจะไม่ทานขนมปังนุ่มหวานเป็นอาหารเช้า