จาก บรรยากาศที่สำนักงาน​คณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ ​ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือ ส.ส.ที่ผ่านการประกาศรับรอง ทยอยเดินทางมารับหนังสือรับรองส.ส. เพื่อไปรายงานตัวที่รัฐสภา ได้จนถึงวันที่ 24 มิ.ย.นี้ เวลา 08.30 น ถึง 16.30 น. ซึ่งมีผู้สมัคร ส.ส. 500 คน ที่ กกต. ประกาศรับรอง แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน

ด้าน หมอทศพร เสรีรักษ์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ความรู้สึกหลังจาก ลงทะเบียนรับหนังสือรับรองส.ส. โดยกล่าวว่า รู้สึกโล่งใจ ช่วงเลือกตั้งค่อนข้างเครียด เพราะการทำงานให้ประชาชนเป็นสิ่งที่ผมจริงจังมาก พอมาลงเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักษาชาติ คะแนนของผมที่แพร่ แล้วเรารู้ว่ารัฐธรรมนูญออกมาแบบมาเพื่อจัดการกับพรรคเพื่อไทย ไม่ให้มีปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งก็สำเร็จ แล้วไปลงในนามพรรคไทยรักษาชาติเพื่อหวังคะแนนที่แพร่ ที่มีอยู่เยอะ แต่ก็เสียเวลาเพราะถูกยุบพรรคไปอีก 4 ปี รู้สึกเหนื่อยแต่ไม่ได้ท้อ ที่จะทำงานให้ประเทศชาติ ทำงานให้ประชาชน

เรื่องที่อยากจะผลักดัน

เรื่องแรกที่อยากจะดำเนินการ คือเรื่อง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองที่โดนคดีทั้งหลาย ซึ่งได้ร่างเอาไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คิดว่าจะนำเสนอเป็นเรื่องแรกในการเปิดประชุมสภา แต่ไม่ได้หม่ยความว่า เรื่องอื่นจะไม่ทำนะ เพียงแต่เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ หมอทศพร กล่าว

• เร่งตามหา! เรือสำรวจซากเรือไททานิค พร้อมลูกเรือ 5 คน กับอากาศแค่ 70 ชม.

• ไทม์ไลน์จัดตั้งรัฐบาล สู่การเลือก นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย

• ไทยสร้างไทย คว้า การท่องเที่ยว ‘หญิงหน่อย’ จ่อลาออก ดัน ‘ศิธา’ เข้าสภา

น้องๆทั้งหลายที่โดนคดี ทุกครั้งที่ไปศาล จะมีค่าใช้จ่าย แค่นั่งรถไป-กลับ ก็ 600-700 บาท บางคนที่โดนไปร้อยกว่าคดี จะเอาตังค์ที่ไหนไปจ่าย เหมือนกับเป็นการไปกลั้นแกล้งเขา คนที่ความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป ไม่ควรจะมีความผิด ไม่ควรที่จะได้รับโทษ

หมอทศพร กล่าว

ส่วนประเด็นของ “น้องหยก” เยาวชนอายุ 15 ปี มีความเห็นกลับเรื่องอย่างไร

ผมมองว่าเราต้องคุยกัน จริงๆเรื่องนี้มันง่ายมาก อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ อย่างโรงเรียนไม่มีเข้าคุยกับนักเรียนดีๆ เอาทหาร เอากองร้อยเข้ามา มันเป็นเรื่องที่ตลกมากๆ โรงเรียนหรือผู้ใหญ่ควรฟังเด็กๆ ขณะเดียวกันเด็กเองก็ควรฟังผู้ใหญ่ แล้วเรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ใช่เฉพาะน้องหยกกัยครูเท่านั้น แต่ควรฟังเสียงของคนอื่นๆด้วย

ผมมองว่า เรื่องการแต่งกาย ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร สิ่งสำคัญคือจะทำยังไง ให้เด็กมีความรู้ทางวิชาการ รู้ที่จะคิดสร้างสรรค์ การใช้ชีวิตในสังคม ส่วนเรื่องการแต่งตัว ทรงผม หรือสีผม มันเป็นเพียงปรากฏการณ์ ก้อนน้ำแข็งนิดเดียว แต่เรื่อง หรือนำแข็งที่จมลงไปใต้น้ำมันมากกว่า สำคัญมากกว่าเยอะ

หมอทศพร กล่าว

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY