เคลื่อนไหวแล้ว หมอตัวจริง ที่ถูกหมอเถื่อนแอบอ้างประวัติสมัครงาน โพสต์หลัง พิมรี่พาย หลุดโชว์ข้อมูลส่วนตัว รบกวนพ่อแม่ถึงหน้าบ้าน ยันยังไม่ได้รับการติดต่อ
สื่บเนื่องจากประเด็นร้อนเมื่อวันสองวันที่ผ่านมา กันประเด็นของหมอเถื่อนแอบอ้างชื่อและประวัติของคุณหมอท่านหนึ่ง ที่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ประเทศไทยมานานกว่า 7 ปี เข้าสมัครงานในคลินิกเสริมความงาม อิสคิวท์คลินิก ซึ่งทางพิมรี่พาย ที่เป็นหุ้นส่วนคลินิก โดยขณะนี้ได้แจ้งความเอาผิดกับหญิงสาวรายดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ธันวาคม 2564 พิมรี่พายได้ไลฟ์สดอธิบายเรื่องราวทั้งหมดของเหตุการณ์นี้ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก อิส คิวท์ คลินิก
โดยไลฟ์สดดังกล่าว พิมรี่พายได้นำหลักฐานต่างๆ ออกมายีนยันประกอบการเคลียร์ประเด็นดังกล่าว ทั้งเอกสารการซื้อขายยา เอกสารข้อมูลพร้อมรูปถ่ายของหมอที่ประจำคลินิก ข้อมูลของหมอเถื่อนที่เป็นข้อมูลปลอม รวมถึงข้อมูลของคุณหมอตัวจริง ที่ถูกหมอปลอมนำมาแอบอ้าง กลายเป็นหนึ่งในผู้เสียกลายในเรื่องราวทั้งหมดนี้
ล่าสุดทางด้านของคุณหมอหยก คุณหมอที่โดนหมอเถื่อนแอบอ้าง เคลื่อนไหวอีกครั้งผ่านทางเฟซบุ๊ก PtYhok Mickey Ratanakoset โดยระบุว่า ขอพูดในฐานะผู้เสียหายหน่อยนะคะ สืบเนื่องมาจากการไลฟ์ของคุณพิมรี่พายเมื่อวานนี้ หยกรู้สึกไม่สบายใจกับการที่ถูกเอาเอกสารข้อมูลส่วนตัวมาไลฟ์โดยไม่บอกกล่าว(ถ้าทราบจะขอให้เบลอข้อมูลส่วนตัวก่อน) ทำให้มีนักข่าวได้ข้อมูลจากตรงนี้และบุกไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่ถึงที่บ้าน แล้วยังไปรบกวนคลินิกที่หยกเคยทำก่อนที่จะมาต่างประเทศอีก
ตั้งแต่เกิดเรื่อง หยกไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางest cute clinicหรือทางคุณพิมรี่พายแต่อย่างใด ตามที่ให้ข่าวบอกว่าติดต่อหยกไม่ได้ ซึ่งหยกมีช่องทางให้ติดต่อและใช้ชี้แจงตามที่สื่อต่างๆได้แชร์ไป ถามว่าหยกต้องการอะไร คุณพิมรี่พายก็ขอโทษ (ผ่านสื่อ) ทำไมไม่ไปฟ้องคนที่ปลอมแปลงเอกสาร และแอบอ้าง อันนี้ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างไปตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้วค่ะ
แต่หยกก็ยังหวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจจากทางคลินิกและทางคุณพิมรี่พายนะคะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะผู้ประกอบการของวิชาชีพทางการแพทย์ทั้งหลาย เจ้าของคลินิกและผู้มีใบอนุญาตประจำคลินิกมีหน้าที่ตรวจสอบเเละคัดกรองคนที่จะเข้ามาทำงานในคลีนิคของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน มิใช่เพียงแค่อ้างว่าใส่แมสทำให้ไม่เห็นหน้าตา หรือเชื่อถือเพียงแค่เอกสารไม่กี่แผ่น โชคดีที่ครั้งนี้มีคนทราบว่าคนที่ทำงานในคลีนิคดังกล่าวเป็นหมอปลอมและยังไม่มีคนไข้คนไหนได้รับอันตราย
อันตรายดังกล่าวจากการฉีดกับหมอปลอมมีตั้งแต่ปวดบวมเล็กน้อย ไปจนถึงเข้าเส้นเลือด ผิวหนังไม่มีเลือดมาเลี้ยง ตาบอด ฯลฯ อยากให้ลองคิดตามว่า หากมีใครเป็นอะไรขึ้นมา แล้วสังคมเข้าใจว่าหยกเป็นคนทำ แบบนี้หยกจะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่สะสมมา การพิสูจน์ตัวตนเข้าทำงานในอนาคต กระทบหมดเลยนะคะ
ตอนที่หยกเเสดงตัวว่าเป็นหมอตัวจริงโดนแอบอ้าง ยังมีคนกล่าวหาว่าหยกเป็นหมอปลอม ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อชื่อเสียงและจิตใจมากจริงๆ ..ช่วยเข้าใจหน่อยนะคะ ที่ต้องออกมาโพสต์แบบนี้