ก่อนที่พรีเมียร์ลีกหรือฟุตบอลรายการใดจะเริ่มแข่งขันขึ้นในทุกวันนี้ หนึ่งคอนเทนต์ที่คุณสามารถพบเห็นได้ตลอด นั่นคือ “การทำนายผลด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์” ว่าปลายทางจะจบลงแบบไหน
บางครั้งก็ดูมั่วจนน่าตลก หรือบางทีก็ดูจะแม่นจนน่าขนลุก … การเอา AI มาใช้วิเคราะห์ฟุตบอลเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คำนวนคำตอบของพวกมันอย่างไร ?
ติดตามได้ที่ Main Stand
เบิกตัวพยาน
ศาสตร์ของการทำนายทายทัก ถือเป็นเรื่องที่อยู่เคียงข้างกับมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในบางประเทศนั้นให้ความเชื่อมั่นและเชื่อใจกับการทำนายเป็นอย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่ศาสตร์เหล่านี้แทบไม่มีอะไรมาการันตีความสำเร็จได้เลย
การดูดวง, การทำนายดวง, หรืออะไรก็ตามแต่ คือคำที่เราใช้แทนการ “เดาอนาคต” ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนที่จะทำหน้าที่เดาหรือทำนายนั้น ไม่มีดีกรีอะไรมายืนยัน ไม่มีอะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าพวกเขาจะแม่นจริงขนาดไหน นอกเสียจากการเก็บสถิติการทำนาย ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครมานั่งจดสิ่งเหล่านี้ชัด ๆ เป๊ะ ๆ แบบไม่มีคลาดเคลื่อนแน่นอน เนื่องจากมันคือศาสตร์ที่เหนือยิ่งกว่าการใช้เหตุผล นั่นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนเชื่อเรื่องการเดาอนาคต และบางคนก็ส่ายหัวบอกว่ามันไร้สาระ
ดังนั้นการจะทำให้คนที่ “ไม่เชื่อ” กลับมาคิดทบทวนการทำนายอนาคตอีกครั้ง จำเป็นต้องใช้หลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาการันตีมากกว่าชื่อเสียง ดีกรี ก็ต้องมีเหตุผลเข้ามารองรับด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุผลที่สามารถอ้างอิงด้วยหลักวิทยาศาสตร์ได้ เมื่อนั้นการคาดเดาก็จะน่าเชื่อถือขึ้นอีกมาก
เรื่องนี้สามารถเอามาปรับใช้ได้กับทุกวงการในโลก ไม่ใช่แค่การดูดวงทำนายชะตาอย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่ในโลกของฟุตบอลก็ต้องเปิดรับ ตั้งแต่ฟุตบอลกลายเป็นกีฬาอันดับ 1 ของโลก กูรูฟุตบอลมากมายตามรายการโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือช่องทางใดก็ตาม มักจะมีช่วงที่พวกเขาจะออกมาคาดเดาผลการแข่งขัน ทำนายแชมป์ลีก กันมากมาย
สิ่งที่พวกเขาส่วนใหญ่ใช้วิเคราะห์มักจะเป็นแง่ของความรู้สึกและประสบการณ์ที่เคยสัมผัส รวมถึงความเชื่อส่วนบุคคล แนวการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ทำให้หลายคนขาดน้ำหนักของความน่าเชื่อถือไป แฟนบอลบางคนอาจจะฟังเอาแค่ผ่านหู ไม่คิดจริงจัง เพราะการเดาผลย่อมมีถูกผิดปะปนกันไป อย่างไรก็ตาม ทุกรายการฟุตบอลหรือแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ ก็ต้องมีช่วงหรือคอลัมน์ที่เกี่ยวกับการคาดเดาผล เป้าหมายของพวกเขาคือการทำให้ผู้เสพสื่อคล้อยตามให้ได้…
ดังนั้นการพลิกแพลงเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องจึงเริ่มขึ้น ถึงเวลาที่พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์มาทำนายผลฟุตบอลแล้ว
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คืออะไร เกี่ยวกับฟุตบอลเมื่อไหร่ ?
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ แปลตรงตัวแบบให้สะใจ คือโคตรของคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานได้เร็วมากกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า จดจำข้อมูลได้มากกว่า และที่สำคัญคือประมวลผลหาคำตอบได้หลากหลายมากกว่า แม้คำถามนั้นจะซับซ้อนขนาดไหน
ความเร็วของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ อ้างอิงจาก CNN คือมีความรวดเร็วในการคำนวณมากกว่าหนึ่งล้านล้านครั้งต่อวินาที (1 Trillion calculations per second) สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเรื่องคอมพิวเตอร์ก็ข้ามไปได้เลย แค่รู้ว่ามันคือสุดยอดเครื่องคำนวณที่สามารถเอาข้อมูลทุกอย่างที่คุณมีมายัดรวมลงไป ก่อนจะย่อยออกมาเป็นคำตอบที่คุณอยากจะรู้อย่างรวดเร็วทันใจ … นั่นคือหลักการทำงานของมัน
ปกติแล้ว ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จะใช้ในศาสตร์ด้านอื่นมากกว่าฟุตบอล เช่น การวิจัยนิวเคลียร์, การควบคุมทางอากาศยาน, เคมีภัณฑ์, การแพทย์ หรือแม้กระทั่งการทหาร ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความละเอียดในการทำงานทั้งสิ้น
คำถามที่น่าสนใจคือ เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพและทำงานสุดแสนจะซับซ้อน เข้ามาเกี่ยวข้องกับฟุตบอลกีฬาที่ดูง่ายที่สุดแบบ “ใครยิงประตูได้มากกว่าก็ชนะ” ได้อย่างไร ?
พลิกย้อนกลับไปดูว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหน มันไม่มีคำตอบที่ชัดเจนมากนัก แต่มีข้อมูลที่น่าสนใจของการเข้ามาของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในโลกของกีฬาในช่วงราวกลางยุค 1990s
Photo : scientificamerican
โดยในปี 1996 มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อว่า Deep Blue ของบริษัท IBM ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อเล่นเกมที่ซับซ้อนที่สุดของมนุษย์อย่าง หมากรุก ก่อนที่มันจะเอาชนะ แกร์รี่ คาสปารอฟ ปรมาจารย์หมากรุกของโลกได้สำเร็จ นั่นเป็นการบอกโลกให้รู้ว่าการคำนวณของคอมพิวเตอร์นั้นมีความเชื่อใจได้ขนาดไหน แม้แต่เกมที่แสนจะซับซ้อนและต้องวางแผน มันก็ยังสามารถเป็นผู้ชนะมนุษย์ที่คิดค้นเกมนี้ขึ้นมาได้
จากนั้นเริ่มมีการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอเมริกันเกมส์ โดยเฉพาะอเมริกันฟุตบอล NFL ที่ไม่ใช่แค่เอามาคำนวณผลการแข่งขัน แต่มันยังถูกนำมาปรับใช้ในการวางแผนของแต่ละทีมเลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่นการเอาซูเปอร์คอมพิวเตอร์เข้ามาประมวลผลแผนและวิธีการเล่นเกม NFL ระหว่าง ดัลลัส คาวบอยส์ กับ แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ส เมื่อฤดูกาล 2014 และในเกมวันนั้น พวกเขาสามารถอ่านวิธีการเล่นได้แม่นยำถึง 91.6%
Photo : twitter.com/dallascowboys
ขณะที่ฟุตบอลนั้น น่าจะเริ่มต้นหลังเหล่าอเมริกันเกมส์ (หลังยุค 90s) เพราะจากข้อมูลที่ค้นพบ จุดเริ่มต้นของการทำนายผลการแข่งขัน หรือแม้กระทั่งแชมป์ของพรีเมียร์ลีก น่าจะเริ่มขึ้นหลังปี 2010 เป็นต้นมา ส่วนเป้าหมายในการเอามาใช้งานก็มีหลายรูปแบบแตกต่างกันไป
ฝั่งสื่อก็เริ่มหยิบจับข้อมูลของซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อมานำเสนอเป็นคอนเทนต์ รวมถึงการแตกประเด็นพูดคุยในรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ ขณะที่ฝั่งเว็บไซต์พนันต่างประเทศก็ใช้การวิเคราะห์ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เพื่อดึงดูดใจนักพนัน
ซึ่งสิ่งที่เราทุกคนรู้ดีคือ ต่อให้ข้อมูลจะแม่นยำแค่ไหน แต่การวิเคราะห์ฟุตบอลเป็นเกมที่คาดเดาผลการแข่งขันไม่ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในเกมนั้น ทีมที่ชนะกลับแพ้ ทีมที่ควรแพ้กลับถล่ม 3-0 … การพลิกล็อกเกิดขึ้นได้ทุกวัน ดังนั้นแม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็ทายผิดได้สำหรับกีฬาที่ดูเข้าใจง่ายแบบนี้
เมื่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีความน่าเชื่อถือ มันก็สามารถชักจูงนักพนันได้ และเมื่อมีการพลิกล็อกขึ้นมา … โต๊ะพนันก็ยิ้ม
เห็นได้ชัดว่าประโยชน์ของ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในวงการกีฬานั้นมีเยอะมาก และมันจะแม่นยำสุด ๆ หากเอาไปใช้ในการคิดคำนวณเรื่องวิธีการเล่นและการเอาชนะ ยกตัวอย่างเช่นการสเกาท์ฝั่งตรงข้ามด้วยข้อมูลและสถิติที่จดบันทึกไว้ มันทำให้เกิดการ “รู้เขา รู้เรา” และสามารถวางแผนการเอาชนะได้ง่ายขึ้น
แต่ถ้าจะให้คาดเดาผลการแข่งขันแล้ว ถึงจะน่าเชื่อถือขนาดไหนก็ไม่มีทางแม่นระดับ 100% อย่างแน่นอน
แม่นแค่ไหน ? มั่วเท่าไหร่ ?
เราจะมาขยายความการทำงานที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ชัด ๆ กันอีกหน่อย … เรื่องนี้สามารถยกเอางานวิจัยของ เอียน แม็คฮัล นักวิเคราะห์ด้านกีฬาของมหาวิทยาลัยซัลฟอร์ด ที่ทำงานกับเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อว่า “SAM” (Sports Analysis Machine) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2015
“วิธีการทำงานคือ เราจะเอาข้อมูลทุกอย่างของนักเตะที่พวกเขาทำในสนาม ตัวอย่างเช่นการเข้าสกัดบอลว่าได้กี่ครั้ง มีค่าเฉลี่ยการยิงประตูเท่าไหร่ เอาตัวรอดแบบ 1 ต่อ 1 ได้ดีขนาดไหน และอื่น ๆ อีกมากมาย ยัดลงไปให้ SAM ก่อนที่มันจะเริ่มเอาสถิติทั้งหมดมาประมวลผล นักเตะทั้ง 22 คนในสนามบวกกับตัวสำรอง มาวิเคราะห์ผ่านอัลกอริทึมที่แม่นยำ เพื่อทำนายผลออกมา” ดร. แม็คฮัล กล่าว
การทำนายที่แม่นยำที่สุดที่ทำให้ SAM โด่งดังคือ การวิเคราะห์สถิติของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มขึ้น SAM บอกไว้ว่า การมี ซลาตัน ในทีม จะทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติการยิงประตูเพิ่มขึ้นอีก 8 ลูกในฤดูกาลดังกล่าว และเมื่อลงสนามพร้อมกับ ปอล ป็อกบา ก็จะมีโอกาสเพิ่มประตูมากขึ้นอีก 1.3 ลูก … ปลายทางคือ ยูไนเต็ด มีผลประตูได้เสียดีกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งหมด 9 ลูกพอดีเป๊ะ
ยิ่งไปกว่านั้น คือการทำนายที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะก่อนหน้านั้น SAM บอกว่า เลสเตอร์ ซิตี้ จะจบฤดูกาล 2015-16 ด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากเข้าสู่เดือนมกราคม ซึ่งในนาทีนั้นยังไม่มีสื่อเจ้าไหนกล้าเชื่อมือ เลสเตอร์ ซิตี้ เลยด้วยซ้ำไป นั่นคือตัวอย่างความแม่นของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จากเว็บพนันถูกกฎหมายอย่าง Betting Expert ก็ได้ทำนายอันดับในตารางพรีเมียร์ลีกของฤดูกาลที่แล้วไว้ โดยในอันดับท็อป 4 นั้น พวกเขาทายผิดไปนิดเดียวเท่านั้น คือตำแหน่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สลับกับ ลิเวอร์พูล ระหว่างอันดับ 2 และ 3
นี่คือผลงานที่มีค่าไม่ต่างจากการทำนายผลการแข่งขันให้ถูกเลยด้วยซ้ำ เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถเอามาใช้อ้างอิงได้จริง สโมสรต่าง ๆ จะสามารถเห็นได้ด้วยชุดข้อมูล ว่านักเตะคนไหนคือจุดอ่อนของพวกเขา และนักเตะคนไหนมีตัวเลขสถิติดีเหมาะกับการเป็นจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปของทีม เพียงแต่ว่าการวิเคราะห์และตีมูลค่าของนักเตะ อาจจะไม่เป็นที่น่าสนใจนัก หากเทียบกับการทำนายตำแหน่งแชมป์
ดังนั้นในหลายครั้งเราจะเห็นว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำนายผลการแข่งขันแปลก ๆ เช่น ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก จะเป็นแชมป์ยูโร 2020, อาร์เซน่อล จะจบในอันดับที่ 16 ของฤดูกาล 2020-21 ซึ่งแม้ผลจะผิดและมันจะดูตลกไปบ้าง แต่ความจริงคือ เช็กทำผลงานได้ดีเกินคาด เข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนั้นก็แย่จริง ๆ ชนิดหมดฟอร์มแชมป์ เอฟเอ คัพ เลยทีเดียว
ดังนั้นจะบอกว่ามั่ว 100% ก็คงไม่ถูกนัก เพราะอย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น การทำนายผลการแข่งขันไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันได้ง่าย ๆ เลย เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเกิดขึ้นทำให้ผิดไปจากที่คอมพิวเตอร์คำนวณแทบจะทุกวินาที
ที่สุดแล้วตอนนี้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า SAM กำลังกลายเป็นคนดังในวงการการวิเคราะห์และทำนาย ในปี 2021 SAM ได้ถูกนำเอามาใช้โดยเจ้ามือแทงม้าแข่งในการออกอัตราต่อรอง ขณะที่สโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกก็เริ่มซื้อข้อมูลจาก SAM มาใช้งานแล้ว
“ผมเริ่มทำงานให้คำปรึกษากับสโมสรบางสโมสร มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก บางคนรู้ดีว่า SAM จะมีประโยชน์ขนาดไหน โดยเฉพาะในการวิเคราะห์ตลาดซื้อขายนักเตะของทีม ข้อมูลจาก SAM จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีตรรกะและการอ้างอิง” ดร. แม็คฮัล กล่าว
ตอนนี้โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่เต็มรูปแบบแล้ว ใครที่เข้าถึงข้อมูลได้มากกว่า ละเอียดกว่า และมีเหตุผลมีผลที่มากกว่า ย่อมมีโอกาสตัดสินใจได้ถูกต้องกว่า ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเรียกผู้ช่วยคำนวณและทำนายผลนี้ว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ก็ตาม มันได้เปลี่ยนแปลงแนวทางและวิธีการต่าง ๆ ของโลกกีฬาไปแล้ว
ยิ่งเวลาผ่านไป วิธีการทำงานของมนุษย์ก็ยิ่งซับซ้อนขึ้น แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร … ดังนั้นการมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยถือว่าเป็นเครื่องทุ่นแรง และหากใช้ให้ถูกวิธี ก็จะสามารถหาประโยชน์จากมันได้อย่างแน่นอน