สื่อต่างชาติพากันมองว่า ยุคสมัยใหม่ของเกาหลีเหนือ อาจจะเป็นยุคสตรีเป็นใหญ่ ห้ำหั่นกันขึ้นสู่อำนาจของผู้หญิง 2 คน ระหว่างน้าและหลาน โดยฝ่ายแรกคือ “คิมโยจอง” น้องสาวในไส้เพียงคนเดียวของ “คิมจองอึน” ผู้นำคนปัจจุบัน ที่ตอนนี้ออกมามีบทบาทสำคัญ ในท่าทีเกาหลีเหนือต่อสถานการณ์โลก
ส่วนอีกฝ่ายคือ “คิมจูแอ” ลูกสาวสุดที่รักของ คิมจองอึน ที่แม้จะวัยเพียง 10 กว่าปี แต่ก็ได้รับการวางตัวให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญ จนหลายฝ่ายจับตามองเธอ และนี่คือผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรุ่นที่ 4 ของ “ตระกูลคิม” ในการครองอำนาจดินแดนโสมแดง
ล่าสุด The Straits Times รายงานว่า เกาหลีเหนือมีแผนมอบตำแหน่งผู้นำประเทศของตระกูลคิมรุ่นที่ 4 ให้แก่ คิมจูแอ บุตรสาวของผู้นำคนปัจจุบันอย่าง คิมจองอึน
โดย คิมจูแอ ปรากฏตัวออกสื่อเกาหลีเหนือครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ระหว่างการสังเกตการณ์การทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ก่อนจะติดสอยห้อยตาม คิมจองอึน ออกปฏิบัติภารกิจท่านผู้นำอีกกว่า 20 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานด้านการทหาร และได้รับการทักทายจากเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสที่แสดงความเคารพด้วยการคุกเข่าไม่ต่างจากที่กระทำต่อบิดา
คิมยองโฮ รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ให้ความเห็นว่า “มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่บุตรสาวคนนี้จะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ รัฐบาลเปียงยางตั้งใจทำให้เธอได้รับความสนใจตั้งแต่วัยเยาว์ เพื่อเป็นการวางรากฐานสำหรับการสืบทอดตำแหน่งในอนาคต”
“จากภาพที่ปรากฏออกมาตามสื่อในปี 2023 เธอไปงานของกองทัพเรือเมื่อเดือนสิงหาคม จากนั้นก็ของกองทัพอากาศเมื่อวันสิ้นเดือนพฤศจิกายน พวกนายทหารระดับสูงล้วนให้ความเคารพเธออย่างมาก”
สำหรับ คิมจูแอ มีอายุราว 11-12 ขวบ (เกิดปี 2012 หรือ 2013) เป็นบุตรสาวของ คิมจองอึน กับ รีซอลจู สตรีหมายเลข 1 ซึ่งรายงานจากหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เผยว่า ผู้นำเกาหลีเหนือมีบุตร 3 คน โดยคนโตเป็นผู้ชาย คนสุดท้องยังไม่ยืนยันเพศ แต่คาดว่าน่าจะเป็นชายเช่นกัน ส่วน คิมจูแอ นั้นเป็นบุตรคนกลาง
การปรากฏตัวถี่ยิบของ คิมจูแอ เคียงข้าง คิมจองอึน ภายในระยะเวลา 1 ปีกว่านี้นั้น ทำให้นักวิเคราะห์ต่างชาติมองว่า บุตรสาวที่เปรียบดั่งเจ้าหญิงผู้นี้ สามารถช่วยสร้างภาพลักษณ์ในแง่บวกแก่ คิมจองอึน และทำให้ คิมจูแอ เองกลายเป็นตัวแทนแห่งอนาคตและความหวังของชาวเกาหลีเหนือที่กำลังเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจอยู่ในปัจจุบัน