ผบช.ภาค 7 แถลงข่าวคดีฆ่าเปลือยสาว 18 ยัดกล่อง เร่งสรุปสำนวน ยืนยันมอบความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิต พ่อเหยื่อเผย ผู้ต้องหาสารภาพเสพยาบ้าก่อนลงมือฆ่า
กรณี คนร้ายลงมือฆ่าโหดและยัดศพของ น.ส.สุมิตา อายุ 18 ปี เปลือยท่อนล่าง ใส่ในกล่องพลาสติกแล้วนำไปทิ้งในพงหญ้าในพื้นที่ ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ก่อนจะจับคนร้ายได้ คือ นายธนากร อายุ 19 ปี คนงานบริเวณใกล้เคียงจุดพบศพ ซึ่งหนีไปที่ จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่าคบหากับผู้ตาย แต่ตนมีภรรยาและลูกแล้ว ผู้ตายรบเร้าให้เปิดตัวว่าคบหากัน จึงมีปากเสียงกระทั่งลงมือก่อเหตุ เผยผลชันสูตรอาจเกิดจากการขาดอากาศหายใจหรือได้รับบาดเจ็บ แฉเจอกล่องอีกใบซุกห้องน้ำร้าง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่สภ.เมืองสุพรรณบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส) พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี
พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี คดีฆาตกรรมยัดกล่องซุกในพงหญ้าข้างแพลนปูน โดย ผบช.ภ.7 เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสำนวน โดยใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นลงมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ก่อนแถลงข่าว
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถบูรณาการร่วมกันทำงานจนสามารถจับกุมคนร้ายอย่างรวดเร็ว ในคดีนี้โดยท่าน ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 7 บูรณาการทุกภาคส่วน เร่งรัดสืบสวนติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ กระทบจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตและประชาชน และต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งตำรวจขอยืนยันจะคืนความเป็นธรรมให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด
โดยจะมอบหมายให้ รอง ผบช.ภ.7 ลงมาควบคุมสำนวนการสอบสวนด้วยตัวเอง พร้อมจะเร่งรัดสรุปสำนวนการสอบสวนนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด ซึ่งสั่งให้ฝ่ายสอบสวน สืบสวน พิสูจน์หลักฐาน สอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการมีเคร่งเครียด จึงต้องสอบสวนอย่างรัดกุมอย่างละเอียด
ส่วนมูลเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุครั้งนี้ว่าต้องฆ่านั้นเพราะอะไร ต้องขอเวลาให้ทีมสอบสวน สืบสวนทำงานก่อน และรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความชัดเจน
ด้าน นายประสาน ผมทอง พ่อของผู้ตาย พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต นำกระเช้ามามอบให้ผบช.ภาค 7 เพื่อขอบคุณที่ตำรวจทำงานจับผู้ร้ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้ง เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนไม่เชื่อว่าลูกสาวจะคบกับคนร้ายตามที่กล่าวอ้าง
“อยากบอกกับผู้ต้องหาว่า ทำแบบนี้กับลูกผมทำไม ยอมรับว่าตอนนี้โกรธแค้นมาก ผมรักลูกสาวผมมาก ขอยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้คบหากับผู้ต้องหา และที่ลงมือก่อเหตุ ก็น่าจะมาจากการเสพยาไปด้วย ไม่งั้น คงไม่ทำอะไรรุนแรงแบบนี้ วันนี้ผมมอบแหวนให้ เพื่อนคนงานที่ไปพบศพน้องเต็น เพื่อเป็นการขอบคุณ โดยคนงานคนดังกล่าวมอบแหวนต่อให้แม่และพี่สาว เพื่อทำบุญให้น้องเต็นต่อไป” นายประสาน กล่าว
ส่วนด้านการทำแผน ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า เดินทางไปทำแผนแต่อย่างใด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า จะทำคนเดียว จะมีคนอื่นรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะผู้ต้องหาให้นายโมยคนงานชาวพม่า ที่ห้องพักด้านล่างมาช่วยขนของ โดยอ้างว่าเป็นกล่องขยะ (ซึ่งภายในนั้นเป็นกล่องใส่ศพผู้ต้องหา) เพื่อนำไปไว้ด้านล่างของอาคาร
อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องสอบสวนอย่างละเอียด รัดกุมว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และต้องสอบสวนหาวัตถุพยานเพิ่มเติมอีก สำหรับคดีนี้ตำรวจแจ้งข้อหานายธนากรในความผิดฐาน 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย