หนุ่ม คงกะพัน เคลียร์ทุกประเด็น โต้หอบลูกย้ายประเทศ-ทำศัลยกรรมหน้าพัง ไม่กล้าเจอคน ชี้เป็นเฟกส์นิว เผยรักเมืองไทย ไม่คิดย้ายไปไหน

จากกรณีที่อยู่ๆ พิธีกรดัง หนุ่ม คงกะพัน แสงสุริยะ ก็ตกเป็นข่าวที่พาดหัวชวนตกใจว่า “ช่อง 7 ปลดฟ้าผ่า หนุ่ม หอบลูก 3 ไปเมืองนอก” ล่าสุดเจ้าตัวได้ชี้แจงชัดๆ อีกครั้งผ่านสื่อ หลังไปร่วมฟิตติ้งละครเรื่อง “ฟ้า / ทาน / ตะวัน” ของบริษัท CHANGE2561 ที่ สตูดิโอ One Shot Studio โดยโต้แย้งทุกประเด็น

“ไม่ได้หายไปไหนครับ ยังอยู่เหมือนเดิม ก็ตกใจเหมือนกันเพราะว่าทุกคนถามหมด เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถามว่านึกว่าไปอเมริกาแล้ว (หัวเราะ) ผมไม่รู้เรื่องเลย เพราะเราก็ทำงานปกติ อยู่บ้าน ดูแลลูกๆ ทำยูทูบ แต่ว่าไปไหนมาไหนคนถามหลายครั้งเหลือเกิน จนสุดท้ายก็มีคนแชร์มาให้ในเฟซบุ๊ก ก็เป็นเพื่อนนี่แหละ ถามว่าเป็นยังไงบ้างหนุ่ม สบายดีไหม ไปอยู่อเมริกาแล้วเหรอ หลายคนเชื่อไปเลย จนไปเจอประชาชนข้างนอกก็เชื่อ เลยต้องบอกว่าผมไม่ได้ไปไหน เลยรู้สึกว่าคงมีข่าวอะไรก็เลยไปดู พอกดลิงค์ที่เพื่อนแชร์มาให้ก็เป็นข่าวตามนั้นว่าหอบลูก 3 หนีไปต่างประเทศ โดนถอดหมดกลางอากาศอะไรต่ออะไร มีหลายข่าวเลย มีว่าไปทำศัลยกรรมมาจนไม่กล้าออกไปไหนด้วย (หัวเราะ) เดี๋ยวนี้เฟกนิวส์มันเยอะเนอะ แต่ไม่ได้ไปแก้ข่าวอะไรครับ ก็คิดว่าหลายๆ คนก็คงเข้าใจว่าเราคงไม่ได้มีเรื่องราวอย่างนั้น ก็เลยไม่ได้พูดกับใคร ถ้ามีคนถามก็บอกว่าผมไม่ได้ไปไหนครับ ยังอยู่ๆ”

ข่าวนี้มาจากไหน หรือเรามีแพลนไว้? “ไม่มีเลย ไปไม่ได้ เพราะผมก็มีลูกตั้ง 3 คน ซึ่งก็ต้องเรียนหนังสือที่นี่ และคุณพ่อคุณแม่ก็ยังอยู่ที่นี่ ภรรยาก็อยู่ ถึงจะมีปัญหาอะไรลำบากแค่ไหนก็คงต้องอยู่แหละ คงไม่ได้ไปไหนนะครับ แล้วไปอยู่อเมริกาจะไปอยู่กับใครล่ะ (หัวเราะ) มันก็ต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เนอะ มันคงลำบากมาก ในอนาคตไม่แน่ แต่ตอนนี้คงไม่ใช่ครับ น่าจะเป็นเฟกนิวส์ที่คิดขึ้นมาเลย เพราะภาพที่ใช้ก็คงเป็นภาพที่ไปเที่ยวกับครอบครัว ที่มีกระเป๋าเยอะๆ หลายๆ ใบ ผมก็ถ่ายไว้จริงๆ ตอนนั้นไปภูเก็ตกับครอบครัว แล้วตอนนี้ลูก 3 คนเวลาไปของก็เยอะ ก็เป็นกระเป๋าใบใหญ่เหมือนเดินทางไปต่างประเทศเลย ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีแค่ตัวผมกับครอบครัวและลูก เพราะมีทีมงานอีก”

แสดงว่าเป็นเฟกนิวส์ทั้งหมดเลย? “ทั้งหมดเลย แล้วกับช่อง7 ก็ไม่ได้ร่วมงานกันตั้งนานแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้มีรายการด้วยในขณะนี้”

คิดไหมว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงเป็นข่าว? “ผมไม่ทราบเลย ไม่รู้เลยว่าจุดประกายมาจากตรงไหน ก็คงนึกขึ้นมามั้งว่าเรามีภาพที่มีกระเป๋าเดินทางเยอะๆ ก็อาจจะมาประกอบกับเรื่องราวได้”

ภาพนั้นเราลงแคปชั่นว่าไปไหน? “อันนั้นเราลงไอจีไปนานมากเลยนะ ผมว่าหลายเดือนมาก ปีนึงมั้ง ก็เป็นการเดินทางไปภูเก็ตเมื่อปีที่แล้ว ถึงวันนี้คงปีนึงพอดี ก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนจริงๆ”

เคยคิดไหมว่าอยากจะไปใช้ชีวิตที่นู่น? “ก็มีพระอาจารย์เคยดูดวงไว้ แต่ว่าไม่ได้จะไปตอนนี้ ท่านบอกว่ามีโอกาสจะได้ไปอยู่ต่างประเทศนะ แต่ตัวผมรักเมืองไทยมาก คือโดยอินเนอร์ข้างในคือรักประเทศไทย อยากอยู่ไทย ไม่เคยคิดจะไปอยู่ต่างประเทศ เพราะผมก็เป็นคนที่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาเกือบทั่วโลกแล้ว คือหมายความว่าเดินทางไปทำงานบ้าง เดินทางไปท่องเที่ยว เห็นทั่วโลกแล้ว ก็พูดกับคนอื่นเสมอว่าไม่มีที่ไหนดีเหมือนเมืองไทยเลย ไม่มีทางหรอกที่อยากจะไปอยู่เมืองนอก ก็อยู่บ้านเรานี่แหละ แต่ว่าถ้าไปเที่ยว 1-2 เดือนก็แค่เปลี่ยนบรรยากาศ แต่ถ้าจะไปใช้ชีวิตอยู่จริงๆ นี่ยากมาก เพราะรักที่นี่มาก ก็คงไม่มีโอกาสที่จะไป นอกจากอนาคตข้างหน้าลูกไปเรียนหนังสือหรืออะไร แล้วเขาบอกว่าป๊ามาอยู่ที่นี่เลย อันนี้ก็ยังไม่รู้ เป็นเรื่องอีกไกลมาก”

พระทักมานานหรือยัง? “ก็ผมทำรายการพระ ศักดิ์สิทธิ์คงกระพัน ก็มีหลวงพ่อท่านนึง ท่านดูดวงเก่ง ท่านก็บอกว่ามีโอกาสนะ ถ้ามีคนชวนให้ไปอยู่ต่างประเทศนี่ไปเลยนะ ดีมาก ไม่รู้นะอาจจะเป็นเรื่องข้างหน้า แต่ว่าในวันนี้ไม่มีหรอก คือเราทำรายการพระ ก็จะเดินทางไปถ่ายรายการวัดทั่วประเทศ เจอพระเกจิ เจอนู่นเจอนี่”

มีคิดในใจไหมว่าอาจจะไปจริง? “ตอนนี้ยัง เพราะมันยังไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีคนชักชวน ไม่มีสิ่งที่จะเป็นสิ่งเร้าหรือทำให้เราเกิดความคิดนั้นเลย เพราะตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ แล้วลูกก็ยังเรียนหนังสืออยู่ที่นี่ทั้งหมด ก็ยาก”

ได้คุยกับครอบครัวไหม? “ครอบครัวก็บอกว่ามีข่าวอย่างนี้ได้ยังไง จะทำยังไงดี เขาบอกว่าฟ้องเลยไหม ผมก็บอกว่าอย่าไปทำให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย มันเป็นเรื่องเล็กๆ เราอยู่ในวงการนี้มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ในชีวิตนี้เจอข่าวอะไรอย่างนี้ที่มันอาจจะไม่มีมูลความจริงมาก็เยอะมาก เราก็เฉยๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ในยูทูบเราก็เห็นอยู่แล้วว่ามีเฟกนิวส์เยอะมากเลย ไม่ใช่แค่เรื่องข่าวนักแสดงเนอะ มันมีข่าวทุกเรื่องในทุกวงการ ผมก็เลยมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่มันก็กระทบชีวิตนิดนึง เพราะเวลาเราไปไหนมาไหนคนก็คงคิดว่าไอ้นี่มันต้องไปทำอะไรมาแน่ มันโดนปลดกลางอากาศ มันต้องเป็นเรื่องไม่ดีแหละ ก็เสียความรู้สึกนิดนึง แต่ก็ไม่ได้อะไร”

แต่พอพูดแบบนี้คนอาจจะเข้าใจว่าเรามีปัญหากับช่อง7 จริง? “ก็ดูรุนแรงนะ ฟังดูหนุ่มต้องไปทำชั่ว ถึงจะต้องปลดขนาดนี้ ทางครอบครัวก็ตกใจ บอกว่าไม่ได้นะ เราไม่ได้ทำผิดนะ เดี๋ยวจะเสียหายหรือเปล่า เพราะคนอื่นเขาจะมองไม่ดี แต่ผมเฉยๆ เพราะเจอมาเยอะ เจ็บมาเยอะ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้อะไร ก็พยายามเตือนคนที่เจอ หรือเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนว่าจริงๆ แล้วเดี๋ยวนี้เฟกนิวส์มันเยอะมาก เวลาอ่านอะไรก็ต้องไตร่ตรองให้ดี ส่วนอะไรที่มันส่งผลกระทบกับเราก็อย่าไปคิดมาก หรืออาจจะเป็นนักแสดงท่านอื่นที่เจอข่าวอะไรแบบนี้ ก็อย่าไปตกใจหรือคิดมาก ตั้งสติดีๆ อย่างวันนี้ก็ได้อธิบายให้น้องๆ นักข่าวทุกคน ก็ได้บอกว่าความจริงมันเป็นยังไง ผมก็ไปเขียนในไอจีขำๆ เล่นๆ ว่าก็ขอบคุณที่บอกว่าหอบลูกหนีไปต่างประเทศ 3 คน ดีไม่บอกว่าหอบเมียหนี (หัวเราะ) ก็ยังให้เกียรติเราว่า ถ้ามึงหอบเมียหนี 3 คนแสดงว่ามีปัญหารุนแรงแล้ว”

ฝากถึงคนที่ปล่อยข่าวหน่อย? “ก็ฝากถึงคนที่ปล่อยข่าวนะครับ ว่าอย่างน้อยจะเขียนข่าวอะไรก็ถามผมสักนิดนึงก็ได้ว่าพี่หนุ่มจะไปจริงหรือเปล่า มีเหตุอะไร หรือไปได้ยินอะไรมา ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าเขาจะเขียนข่าวขึ้นมาจากจินตนาการตัวเอง บางทีเขาอาจจะไปได้ยินอะไร อาจจะมีจุดเริ่มต้นของการไปได้ยินหรือไปเห็นอะไรมา ก็ถามผมสักนิดนึงก็ได้ หรือว่าค้นหาข้อมูลให้แน่นอนถูกต้องก่อนนะครับ ผมไปแล้วเหรอ ไปตอนไหน ยังถ่ายละครอยู่เลย กองถ่ายยังมีคิวถ่ายอยู่เลย พูดถึงเรื่องงาน คนอื่นไปเห็นอาจจะกระทบ ไม่จ้างแล้วโว้ย ไอ้นี่ต้องมีพฤติกรรมเลวร้าย เขาถึงได้ปลดอะไรแบบนี้

ก็ฝากไว้ด้วยนะครับว่าอย่าทำแบบนี้ ไม่ดี อีกอย่างนึงพอมันออกมาทางช่องยูทูบ หรือเพจที่เราทำอยู่ มันก็จะโดนกระทบเรื่องความน่าเชื่อถือต่อเพจเรา เพราะว่าพอเข้าไปอ่านเนื้อข่าวมันก็แทบไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่เขาอาจจะต้องการให้คลิกเข้าไปดู หรือเข้าไปกดไลก์มากกว่า แต่พาดหัวกับหน้าปกเนี่ยต้องดูแลความรู้สึกคนอื่นด้วยนะครับ (หัวเราะ) ไม่เอาเรื่องหรอกครับ เข้าใจ ก็ช่วยๆ กันทำมาหากิน (หัวเราะ)”