หลังจากก่อนหน้านี้ทาง ทนายเดชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ทนายคลายทุกข์ เป็นภาพร่วมเฟรมกับนักร้องชื่อดัง “หนุ่ม กะลา” พร้อมระบุข้อความว่า #หนุ่มกะลายืนยันมอบหมายให้ทนายเดชายื่นฟ้องคนใกล้ชิดจำนวน 2 คนที่ยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองบริบูรณ์ 365 เป็นเรื่องจริง โดยการโอนเงินของห้างเข้าบัญชีส่วนตัวโดยทุจริต รวม 452 ครั้งเป็นเงิน 66,359,957 บาทที่ศาลแขวงสมุทรปราการ #มีพยานหลักฐานชัดเจนและยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาตรา 91 มาตรา 352 และมาตรา 353 คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดีชู้สาวหรือเรื่องเมียหลวงเมียน้อยแต่อย่างใด นอกจากนี้หนุ่มกะลายังได้มอบหมายให้ทนายเดชาดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายชื่อเสียงผ่านโซเชียลมีเดียหรือออกรายการทีวีต่างๆเพิ่มเติม

ต่อมา ทาง ทนายเดชา พร้อม หนุ่ม กะลา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดย หนุ่ม กะลา เผยว่า จริงๆแล้วไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะตั้งแต่มีเรื่องของมือที่ 3 ก็ออกมาพูดเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะกลัวจะกระทบถึงลูก ไม่อยากให้บานปลาย และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่พอมีข่าวออกมาจากบางเพจ จากบางบุคคลว่าหนีไปบวช หนีไปอยู่กับเมียน้อยอะไรก็แล้วแต่ มันเริ่มมีกระแสเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาหนักขึ้นเรื่อยๆ และตัดสินใจที่จะออกมาพูดในครั้งนี้เพื่ออธิบายในเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาตลอดเวลาการเป็นนักร้องและอยู่ด้วยกันมาไม่เคยสงสัยเรื่องเงิน แม้กระทั่งจ่ายค่าไฟเองยังจ่ายไม่เป็น เพราะตนมีหน้าที่ทำงานหาเงินอย่างเดียว แต่ตอนที่ตกลงและคุยกันทางภรรยาคืนเงินมาเพียงแค่ 3 แสน มันเลยเป็นจุดที่ทำให้รู้สึกเอ๊ะ เพราะยังต้องรับผิดชอบเงินเดือนเขาทุกเดือน เดือนละ 4 หมื่นบาท รวมถึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของลูกอีกหลายแสน เลยทำให้รู้สึกว่าเงินหายไปไหนหมด ก่อนหน้านี้ตนได้เงินเดือนเดือนละ 4 หมื่นบาทเท่านั้น และหลังจากที่เกิดเรื่องก้ได้มีการเช็คสเตตเมนต์ย้อนหลัง ก็พบว่ายอดโอนเงินเข้าบัญชี เพ็ญชุลี ตลอด

ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการคุยมาตลอดหลายเดือน ในชีวิตการเป็นนักร้องมา 16 ปี ทำไมตนเป็นหนี้อยู่ 20 ล้าน หนี้บ้าน หนี้คอนโด หนี้รถทุกคัน ตอนแยกกันทรัพย์สินที่ผ่อนหมด ภรรยาเอาไป แต่อะไรที่ยังผ่อนอยู่ตนจะต้องรับผิดชอบ รวมถึงการรับผิดชอบเงินเดือนของภรรยาและค่าใช้จ่ายของลูกทั้งหมด ตนยืนยันว่าการออกมาครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่อยากให้ภรรยาออกมาชี้แจงว่าเงินไปไหน และไม่ได้อยากเอาเงินคืน ต่อให้มีเงินเป็นร้อยล้าน หรือมากกว่านั้นก็แล้วแต่ ตนก็จะไม่เอาคืน เพียงแค่ต้องการให้เอาเงินมาปิดหนี้ให้ เพราะเชื่อว่าเงินทั้งหมดที่เหลือภรรยาจะดูแลเพื่อลูกได้อยู่แล้ว ตรงส่วนนี้ตนไม่ติดใจ เพราะยังสามารถหาใหม่ได้ และหลังจากจบเรื่องนี้ ก็ต่างคนต่างใช้ชีวิต ซึ่งตนเองก็ยังจะดูแลภรรยาและลูกต่อไปอย่างดีเช่นเดิม

ตลอดระยะเวลาที่คุยกันมา ทางภรรยาบอกว่าไม่มี ซึ่งแต่ละปีตนทำงาน รับงานจะมีรายได้ประมาณ 20 ล้าน แต่ที่เห็นในรบัญชีล่าสุดก่อนโควิด มีเพียง 5 ล้านเท่านั้น ซึ่งพอนึกย้อนกลับไปทำให้รู้สึกเสียใจมาก แม้ว่าที่ผ่านมาภรรยาจะบอกว่านำเงินไปใช้จ่ายต่างๆ แต่สเตทเมนต์ไม่โกหกแน่นอน 25 ปีที่ผ่านมาเป็นเงินของตนทั้งหมดที่เลี้ยงดูภรรยาและครอบครัว อะไรที่ผิดตนก็ยอมรับผิด แต่ถ้าในเรื่องของการดูแลครอบครัว ยืนยันว่าตนทำอย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ หนุ่ม กะลา ยังเผยอีกว่า มีแพลนบวชในวันที่ 15 กรกฎาคม เพราะเหนื่อยไม่ใช่แค่เรื่องข่าว แต่ที่ผ่านมารับงานเยอะเกินแล้วโอเวอร์ดหลดมาหลายปี แล้วพอเกิดเหตุการณ์นี้มา ก็อยากขอใช้ชีวิตสงบๆสัก 1 เดือน ซึ่งแพลนบวชมีมานานแล้ว ถ้าให้เปรียบชีวิตตอนนี้เหมาะกับเพลงไหน ก็คงเหมาะกับเพลง ปล่อย มากที่สุด และที่ฟ้องครั้งนี้เพื่อให้ภรรยาชี้แจง และถ้ามีเงินอยู่ขอให้ปิดหนี้ให้ ต่อให้มีเงินมหาศาลก็ไม่เอาคืน เพราะเชื่อว่าภรรยาจะสามารถดูแลลูกได้อยูแล้ว แต่ต่อให้ปิดหนี้ให้แล้ว ก็ยังจะดูแลภรรยาและลูกอยู่ ส่วนเรื่องหย่าก็จะดำเนินการให้จบ