ประเด็นร้อนแรงมาหลายวันสำหรับ กลุ่มเชื่อมจิต และพิธีกรคนดัง หนุ่ม–กรรชัย กำเนิดพลอย หลังจากที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พาลูกน้อง ตำรวจ สน.ทองหล่อ พบปรับความเข้าใจกับตนเอง แจงเหตุห้ามไม่ให้เข้าห้องน้ำ จนทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นที่จับตามองของสังคม
ล่าสุดรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ขอต่อสายตรง หนุ่ม กรรชัย สัมภาษณ์โฟนอินเข้ารายการ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว และถามถึงสาเหตุว่า ทำไมเจ้าตัวถึงไม่ปล่อยเรื่องกลุ่มเชื่อมจิตผ่านไป ตอบชัดพร้อมเจอคุณแม่เชื่อมจิต ถามกลับว่าเขาพร้อมเจอผมหรือไม่ สามารถติดตามได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น
หนุ่ม กรรชัย วันนั้นไป สน.ทองหล่อ ทำไมคะ ?
ประเด็นที่ผมไปมันเกิดขึ้นเพราะว่า จริงๆ ปกติแล้ว ทางฝั่งของคนที่รับทราบข้อกล่าวหาก็ได้มีการนัดกับทางฝั่งของ สน.ทองหล่อ เอาไว้ ในวันที่ 5 ตอนเช้า แต่ปรากฏว่า เขาไปก่อนวันนัด และไม่ได้มีการแจ้ง ผมเองก็เกิดความไม่สบายใจขึ้น เพราะจริงๆ แล้วเรื่องนี้ผม แจ้ง พ.ร.บ.เด็ก เข้าไปด้วย ประเด็นก็คือว่า วันที่ 5 ตอนเช้าครับ ทาง พ.ร.บ.เอง เขาต้องมาร่วมสอบด้วย พอเขามาปรากฏตัวก่อน แล้วไม่มีการแจ้งฝั่งของเจ้าหน้าที่เขาไว้ก่อน มันกลายจะเป็นวุ่นไปหมดเลยครับ เพราะเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกครับ มันจะกลายเป็นว่า พ.ร.บ. ก็มาไม่ได้ และจะสอบเด็กอย่างไร สุดท้ายคือ ทางเจ้าของสำนวนอยู่ หรือไม่อยู่ และความคืบหน้ามันจะไปอย่างไร ผมก็เลยไปที่นั้นครับ
อาจารย์ถามหนุ่มตรงๆ หนุ่มปวดฉี่จริงหรือเปล่า ?
ปวดฉี่จริงๆ ครับ
นึกว่าหนุ่มจะปวดฉี่ แกล้งเข้าไปข้างใน ?
ไม่หรอกครับ คือผมเองไปตั้งแต่บ่าย 2 ผมอยู่ตรงนั้น 3 ชั่วโมง ผมดื่มแต่น้ำ ไม่ได้ทานข้าวอะไรเลย ผมก็เลยปวดฉี่ แต่ถามว่าแปลกใจไหม ทำไมถึงยืนกันขวางทางเดินขนาดนั้นทางที่เดินไปห้องน้ำ ผมก็แปลกใจ แต่ว่าก็ไม่ได้จะไปลองของนะครับ เพียงแต่ว่าผมรู้สึกว่า มันไม่แฟร์กับผม และอีกอย่างนึง ผมเห็นคนที่อยู่ในห้องสอบสวนก็เดินไปเข้าห้องน้ำได้ แต่ผมเป็นเจ้าทุกข์ ทำไมผมจะเข้าไม่ได้ คือสิ่งที่ผมสงสัย และผมรู้สึกเสียความรู้สึก หรือกังวลใจที่สุดคือ ผมถามว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น ถ้าได้ยินในคลิป ว่านี่คือสิ่งที่ 2 มาตรฐานหรือเปล่า ถูกไหมครับ ถามว่าเพราะอะไรถึงพูดตรงนั้นออกไป ผมก็บอกได้เลยว่า ในขณะที่ฝั่งของผู้ถูกกล่าวหาไปห้องน้ำได้ แต่ผู้กล่าวหาเดินเข้าห้องน้ำ
ไม่ได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่ามัน 2 มาตรฐานไหม แต่สิ่งที่สำคัญที่สำคัญที่สุดคือ มันคือการสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา ถามว่าบรรทัดฐานคืออะไร ต่อไปนี้ เขาก็ต้องเข้าใจกันอย่างนึงว่า ทองหล่อเป็นพื้นที่กว้าง และมีประชากรอยู่หนาแน่น มีหลากหลายอาชีพ เพราะฉะนั้นแน่นอนครับว่า น่าจะมีเกิดเรื่องของเหตุต่าง ๆ นานาขึ้นบ่อยครั้งอยู่แล้ว ซึ่งต่อไปแบบนี้ถ้าเกิดว่า มีผู้รับทราบข้อกล่าวหา หรือ ผู้ต้องหา ไปถึงที่ สน.ทองหล่อ เขาสามารถพูดได้เลย เขาอยู่ในห้องนี้นะ เขาขอพิมพ์ลายนิ้วมือตรงนี้นะ เพราะว่าผมไม่สะดวกขึ้นไปข้างบน และถึงสำคัญที่สุดก็บอกว่า ให้หาตำรวจมากันตรงนี้ด้วยนะ เพราะเขาไม่อยากให้ใครเดินผ่านตรงที่เขาอยู่ ถ้าเกิดคนอื่นทำล่ะ
ดูอภิสิทธิ์จังเลย ?
ถูกไหมครับ มันจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา แล้วถ้าเกิดว่าตำรวจไม่ทำให้ ตำรวจก็ถูกแจ้ง 157 เพราะคุณปฏิบัติกับทางฝั่งนู้นแบบนี้ ผู้เสียหายคนอื่นๆ หรือผู้ต้องหาคนอื่นๆก็มา มันก็กลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน อันนี้คือสิ่งที่เรากังวลใจมากที่สุดครับ
ตอนนี้ก็ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้สังคมเข้าใจกับคุณหนุ่มว่า ไม่ได้มีเรื่องราวกับตำรวจนะคะ ?
คือผมไม่ได้มีเรื่องราวกับตำรวจอยู่แล้วครับ เพราะว่า ทุกวันนี้ ผมก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมก็ต้องเรียนแบบนี้ว่า จริงๆแล้วเรื่องจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเกิดว่า ณ วันนั้น แต่ตอนนี้เคลียร์กันแล้วนะครับ ณ วันนั้น ถ้าเกิดว่า ฝากไว้เป็นกรณีต่อไป หรือโรงพักอื่นๆ ถ้าสมมุติไปเจอแบบนี้ ผมอยากให้แบบ มีสตินิดนึงในการแก้ไขปัญหา อย่างเช่น บอกว่าคุณหนุ่มอยากเข้าห้องน้ำใช่ไหม ตรงนี้ทางฝั่งคู่กรณีอยู่ห้องนี้นะ คุณหนุ่มอย่าไปเปิดนะ แล้วคุณหนุ่มเดินไป ขออนุญาตให้ตำรวจเดินตาม 1- 2 คนนะ คุณหนุ่มไม่ว่ากันนะ เข้าใจผมด้วยนะครับ แค่นี้ก็จบแล้ว
แต่ทำไมถึงต้องมากั้น ไม่ให้ผ่าน ผมไม่ให้ผ่าน เป็นอำนาจผม ผมไม่ให้ผ่าน อะไรแบบนี้ และผมถามว่า ถ้าเกิดวันนั้นผม สวนไปว่า อ้าว ไม่ผ่านได้ไง เป็นอำนาจคุณ แต่ว่าเงินเดือนคุณเป็นภาษีผม จะตอบผมอย่างไร ฯลฯ แต่สุดท้ายก็คุยกันหมดแล้วกับฝั่งเจ้าหน้าที่ท่านนั้น ต้องบอกนะ อย่าไปเหมารวมนะ คือ สน.ทองหล่อ เป็น สน. ที่ดี ผู้กำกับท่านก็น่ารัก ต้องบอกแบบนี้ก่อน เพียงแต่ว่า มันอาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างว่า วันนั้นมันเกิดความตึงเครียดจริงๆ ก็ต้องเข้าใจเขาด้วยในส่วนนึง
มีคนอยากรู้ว่า ทำไมเรื่องเชื่อมจิตรู้สึกว่าคุณหนุ่มไม่ปล่อยเลย มันเป็นเรื่องสะเทือนใจพุทธศาสนิกชน หรือมันอย่างไร ?
คืออย่างนี้ครับ ผมต้องเรียนแบบนี้ก่อน โดยส่วนตัวผมเอง ผมผ่านเรื่องราวของผู้วิเศษมาเยอะ ผมต้องใช้คำนี้ และผู้วิเศษบางคนผมก็ปล่อยผ่านๆ ผมก็ทำหน้าที่ของสื่อไปปกติ และเรื่องนี้ผมเองเคยปล่อยผ่านไปแล้วนะ แต่สุดท้ายเขากลับมาด่าทอผม หลังจากที่ผมทำรายการโหนกระแสผ่านไปแล้ว 4 เดือนในเรื่องของเขา 4 เดือนผ่านมาค่อยมาด่าผม มีการพูดจาข่มขู่ผม จะเอาเรื่องผม มาพูดว่าผมแบบเป็น ไอ้ไก่อ่อน กระจอก บอกว่าผมเอารายการนี้ ทำขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกแยกสังคม หิวเงิน จะเอาแต่เงิน จะเอาแต่เรตติ้ง ผมว่าสิ่งเหล่านี้ มันหมิ่นประมาท และล้ำแส้นผมเกิดไปครับ
ประกอบกับเขาพยายามที่จะเปิดเผยข้อมูลของเขาผ่านการด่าผมว่า มันมีเรื่องของอนาคามี ที่ลดชั้นมาเป็นองค์พญานาค เสร็จแล้วถึงมาจุติเป็นมนุษย์ เพื่อมาสอนธรรม มีการเชื่อมจิต ต่างๆ นานา ผมรู้สึกว่ามันเริ่มไปกันใหญ่ หลังจากนั้นก็ไม่หยุด ก็ทำวิธีการแบบนี้เรื่อยๆมา
ผมมองย้อนกลับไปว่า อาจารย์ผมมีลูก ลูกผมยังเล็ก และลูกผมก็ต้องโตมา ผมบอกเลยว่าสังคมทุกวันนี้ มันก็แย่อยู่แล้วนะครับ อย่างน้อยให้มีหลักของพระพุทธศาสนาเป็นหลักให้ลูกผมหน่อยเถอะครับ คืออย่าให้ลูกผมต้องสับสนกับพุทธเลยครับ คือพุทธเรามีพุทธเดียว คือพุทธในพระไตรปิฎก แต่ว่าในมุมกลับกันจะมาบอกว่า ถ้าลูกสาวผมโตแล้วบอกว่า เนี่ย ปะป๋า องค์อนาคามีเนี่ย เขาไม่ใช่กลับชาติมาเกิดไม่ได้นะ เขากลับชาติมาเกิดได้ เพราะแบบนี้ๆ เห็นไหมคนนี้เขายังทำแบบนี้เลย เขายังบอกเลย แบบนี้มันได้เหรอ
ถ้าสมมติเราสามารถเชิญคุณแม่เชื่อมจิต เชิญคุณทนายมาได้ทั้งหมด รวมถึงทนายธรรมราชมาด้วย คุณหนุ่มมาช่วยกันเคลียร์ได้ไหมคะ เดี๊ยนจะนั่งข้างคุณหนุ่มมาช่วยเดี๊ยนในรายการ ?
คือ อาจารย์อย่าถามผมเลยครับ อาจารย์ต้องไปถามเขา ว่าเขาพร้อมหรือเปล่า
ถ้าเขาพร้อมคุณหนุ่มมาเพื่อนอาจารย์ยิ่งศักดิ์นะ ?
โอ้ย ผมทุกเมื่อ คือผมพร้อมอยู่แล้วที่จะเจอสนามเวทีกลาง ผมพร้อม เจอที่ไหนก็ได้ ของใครก็ได้ ผมพร้อม
คุณหนุ่มคะ เราถามในมุมของคนเป็นพ่อเป็นแม่ อยากพูดอะไรกับพ่อกับแม่เขาไหมคะ ว่าทุกวันนี้เขาพูดเป็นอย่างไร ?
คือจริงๆแล้ว ขออนุญาตนะครับ ผมพูดไปไม่ได้ไปตำหนิ ติเตียน หรือว่าจะไปพูด ทำให้ทางฝั่งครอบครัวเขาเสียหาย แต่ว่าผมขออนุญาตตอบในฐานะเป็นพ่อคนนึงเหมือนกัน และก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในตัวเด็กคนนั้นนะครับ ที่อายุ 8 ขวบเท่านั้น ผมพูดในฐานะพ่อคนนึง คือผมอยากให้คุณทบทวนให้ดีๆ
เพราะว่า เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ภายนอกที่ลูกอยู่ห่างมือเรา ชีวิตเขาจะเป็นอย่างไร เขาอยู่กับเพื่อนเขาเป็นอย่างไร ผมเองเป็นพ่อ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ลูกผมอยู่ที่โรงเรียน ไปเล่นกับเพื่อนแบบไหน โดนเพื่อนแกล้งแบบไหน จนกว่า เขาจะมาบอกเรา เพราะฉะนั้นเวลาเขาอยู่นอกสายตาเรา เราไม่สามารถไปควบคุม หรือไม่สามารถทำอะไรได้ รวมถึงความรู้สึกของเขาด้วย รวมถึงความรู้สึกของเด็กๆที่เป็นเพื่อนเขาด้วย อันนี้สำคัญที่สุด อย่าพยายามสร้างลูกเราให้เป็นตัวประหลาดอยู่ในหมู่เพื่อนฝูง เวลาเขามองเข้ามา อันนี้อันดับแรก อันดับที่ 2 ผมมีความปรารถนาดีจริงๆ อย่าหาว่าผมสอน หรืออะไรเลยนะครับ
ผมแค่อยากจะบอกว่า การที่เราจะสอนเด็กคนนึงให้รู้จักสังคมภายนอกว่า มันไม่เหมือนกับอยู่ในบ้านเรา อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ เปรียบเทียบว่า ถ้าเรามีลูก เราป้อนลูกเราโดยให้กินพิซซ่าทุกวันๆ โดยที่เราไม่เคยบอกว่า หนูวันนึงหนูเดินออกจากบ้านไป หนูจะไม่มีพิซซ่ากินนะ หนูอาจจะไปเจอพริกเม็ดนึง แล้วหนูต้องกินเข้าไป แล้วพริกมันจะมีรสชาติอย่างไร เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่า เวลาเขาเดินออกจากบ้าน สังคมภายนอก มันอาจจะเผ็ดแบบพริกก็ได้นะ มันอาจจะไม่เหมือนพิซซ่าที่หนูหน่อย ที่เคยกินทุกวัน มันคือการสร้างภูมิให้กับเขา ไม่ใช่วันนึงเด็กออกมาแล้วเจอเสียงภายนอกที่มันก่นด่า หรือโหวกเหวกโวยวาย แล้วเด็กตกใจเหมือนที่เราเคยเห็นในภาพ ผมว่ามันเป็นภาพสะเทือนใจครับ ผมสงสารน้อง
เพราะอะไร เพราะผมเชื่อว่า เขาได้รับการทีชว่า มีคนกราบไหว้ มีคนเคารพนับถือ มีคนเอาอกเอาใจ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าโลกภายนอกอีกมุมนึงมันเป็นแบบไหน โลกภายนอกมันโหดร้ายมากกว่าคนในบ้านครับผมบอกเลย อันนี้ผมบอกและเป็นกำลังใจ ผมอยากให้ทำแบบนี้จริงๆ ผมเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่นะ ถ้าทำได้มันจะเป็นส่วนดี มันจะเป็นบุญกุศลกับสิ่งที่คุณกำลังรู้สึกกำลังทำอยู่ด้วยซ้ำให้กับลูกคุณเอง
แฟนๆ สามารถติดตามรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.10 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!