หนุ่มไรเดอร์ผวา ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตร. รับเคยมีประวัติคดียาหวั่นถูกยัดข้อหา ลั่นไม่กลัวตาย กลัวที่สุดคือคนมีสี อยากให้คู่กรณีให้มาเคลียร์ปัญหา
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 พ.ค.2566 นายธนดล พรหมใจรักษ์ อายุ 34 ปี อาชีพ ไรเดอร์เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ กรณีที่ถูกชายฉกรรจ์ 3 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกบ้านข่มขู่ พยายามเรียกให้ไปตรวจฉี่ โดยนายธนดล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 11 พ.ค.2566ชายทั้ง 3 คน และหญิงอีก 1 คน เข้ามาส่งทนายความซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านตนเอง ซึ่งในตอนนั้นตนเองได้ยินเสียงคนมาเดินบริเวณบ้าน จึงเปิดประตูหลังบ้านออกไปดูว่าใครมาเดิน
ขณะเดียวกัน ตนได้ยินกลุ่มชายดังกล่าวพูดว่า “บ้านหลังนี้นะ” ตนจึงถามกลับไปว่า “พี่มีอะไรกับบ้านผมเหรอ” ก่อนที่ 1 ใน 3 ชาย 3 คน ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมา โวยวายใส่ตน ท้าทายให้ตนออกไปคุยหน้าบ้านแต่ตนเองไม่ได้ออกไป ไม่เช่นนั้นอาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายได้ อีกทั้งยังมีการบอกให้ตรวจฉี่ และตรวจเลือดอีกด้วย ซึ่งตนเองงงว่า สามารถเรียกไปตรวจเลือดแบบนี้ได้เลยเหรอ
อย่างไรก็ตาม นายธนดล กล่าวต่ออีกว่า ตนเองไม่เคยมีปัญหากับกลุ่มชายดังกล่าว และไม่เคยเห็นหน้าด้วย แต่ยอมรับว่า ตนเองเคยมีปากเสียงกับทนายความซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ราว 5-6 ปีแล้ว ในเรื่องของการก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคล หรือหากพูดภาษาชาวบ้านก็คือชอบเสือก และไม่ค่อยชอบขี้หน้าตนเอง จึงคอยจ้องแต่จะจับผิด เพราะตนเองมีประวัติไม่ดี เคยเสพยาเสพติดมาก่อน ชีวิตคนเรามันต้องเคยมีผิดพลาดกันได้บ้าง แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาเหยียบย่ำ มาย่ำยีตนเอง
ในขณะเดียวกันคนที่มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดรายอื่นๆ คนขายยาเสพติด ทำไมถึงไม่ไปจับ อยากรู้ว่าทำไมถึงจ้องแต่ตน ตนไม่ได้กลัวคุกไม่กลัวตาย แต่สิ่งที่กลัวคือคนมีสี ยัดข้อหาให้ประชาชนอย่างตน ขออย่างเดียวอย่าโยนความผิดในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ ยิ่งตนเองเป็นแค่ไรเดอร์ ไม่ได้มีอำนาจ ไม่มีเส้นสาย หรือแม้แต่ครอบครัว อยู่ตัวคนเดียว หากวันดีคืนดีมีคนมาปีนบ้านตนเอง แล้วยัดข้อหายาเสพติด ก็ไม่ใชเรื่องยากอะไร ซึ่งถ้าหากวันนี้ตนเองไม่ได้ออกมาพูดก่อน คงโดนไปแล้ว
ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวจบลงโดยที่กลุ่มชายดังกล่าวบอกว่า “จบนะ แยกย้ายนะ ต่างคนต่างอยู่ ถ้าไม่จบ เดี๋ยวเจอ ซึ่งตนเองรู้สึกว่าคำพูดดังกล่าวคือการคุกคามเพราะมาในยามวิกาล อีกทั้งตนเองไม่เคยไปมีปัญหาด้วย และในวันนั้นตนเองก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายด้วย
นายธนดล กล่าวอีกว่า นายตี๋ได้มีการอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สน.บางพลัด แต่วันที่ตนเองไปแจ้งความที่ สน.บางพลัด ตำรวจบอกว่าไม่มีตำรวจหน้าตาแบบนี้ที่ สน.บางพลัด และหลังจากมีเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข่าว ตนยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากฝ่ายคู่กรณี ทั้งนี้อยากฝากไปถึงคู่กรณีว่า หากมีปัญหาอะไรให้โทรมาคุย หรือเข้ามาคุยกับตนเองที่บ้านว่าจะให้จบอย่างไร
ตอนนี้ตนเองยอมรับว่ากลัว เพราะใช้ชีวิตตัวคนเดียว อาจจะโดนรถชนหรือถูกยิงเสียชีวิตปริศนาวันไหนก็ได้ และสิ่งที่กลัวที่สุดตอนนี้คือกลัวความผิดที่ตนเองไม่ได้กระทำ เพราะฉะนั้นอยากวอนสื่อช่วยตีแผ่เรื่องราวของตนด้วย