หนุ่มเปิดใจ! ไม่ทันบอกลาคนรัก หลังใช้ชีวิตด้วยกัน 24 ปี จากไปหลังแม่แค่ 13 วัน

Home » หนุ่มเปิดใจ! ไม่ทันบอกลาคนรัก หลังใช้ชีวิตด้วยกัน 24 ปี จากไปหลังแม่แค่ 13 วัน


หนุ่มเปิดใจ! ไม่ทันบอกลาคนรัก หลังใช้ชีวิตด้วยกัน 24 ปี จากไปหลังแม่แค่ 13 วัน

หนุ่มเปิดใจ! ไม่ทันบอกลาคนรัก หลังใช้ชีวิตด้วยกัน 24 ปี จากไปหลังแม่แค่ 13 วัน เผยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน คอยดูแลทุกอย่าง อยากบอกในชีวิตนี้มีเขาคนเดียว

จากกรณี ผู้ใช้ติ๊กต็อก @dangfriendly โพสต์คลิปถึงคนรักที่จากไปด้วยโรคมะเร็ง หลังใช้ชีวิตเป็นคู่รักและอยู่ด้วยกันมา 24 ปี ขณะเดียวกันแม่ของแฟนก็ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ห่างกันเพียง 13 วัน ด้วยโรคเดียวกัน ซึ่งคลิปดังกล่าว มีผู้เข้าชมถึง 9 แสนครั้ง ต่างชื่นชมความรักของทั้งคู่ เป็นรักแท้ที่ไม่จำกัดเพศ

สำหรับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65 ข่าวสดออนไลน์ ได้คุยกับ นายธนพัฒน์ เลาหปิยะกุล อายุ 58 ปี เจ้าของคลิป เล่าว่า ความสัมพันธ์เริ่มต้นมาจากเพื่อนของตนกับเพื่อนของแฟนนัดกันไปเที่ยว ทำให้ได้รู้จักกัน จากนั้นคบกันเป็นแฟน ในตอนนั้นตนเป็นครูรับราชการ ส่วนแฟนเป็นพ่อค้าอยู่ในตลาด ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตนก็จะไปช่วยแฟนขายของที่ตลาด ซึ่งครอบครัวทั้งคู่ก็ยอมรับได้ เพราะตนกับแฟนมีชีวิตที่มีความสุข ช่วยกันทำมาหากิน สร้างครอบครัวไปด้วยกัน ตลอดระยะเวลาที่คบกัน 24 ปี ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันทั้งสุขและทุกข์ เวลาทะเลาะกันหรืองอนกันก็ต่างคนต่างง้อกัน ไม่เคยมีเรื่องมือที่ 3 แฟนใช้ชีวิตตามปกติ แต่บ่นเจ็บหน้าอก ปวดเนื้อปวดตัวบ้างนิดหน่อย ตอนแรกคิดว่าเป็นกรดไหลย้อน

จนกระทั่งเมื่อปี 2562 ภายในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนที่แฟนจะเสียชีวิต แฟนเริ่มมีอาการปวดมากขึ้น กินข้าวได้น้อยลง แต่พอกินยากรดไหลย้อนอาการก็ดีขึ้น จากนั้นเดือนสุดท้ายร่างกายของแฟนเริ่มแย่ลง เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลหมอแจ้งว่าแฟนเป็นมะเร็งตับ ร่างกายทรุดลงเรื่อยๆ

นายธนพัฒน์ กว่าวอีกว่า ขณะที่แฟนรักษาตัวที่โรงพยาบาล คุณแม่ของแฟนก็ป่วยเป็นมะเร็ง รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน จากนั้นคุณแม่ก็เสียชีวิตลง ตนก็พาแฟนไปงานศพ ในตอนนั้นสภาพจิตใจของแฟนแย่มาก บอกกับตนว่า “ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว” ซึ่งให้กำลังใจไปว่า “ตอนนี้ยังมีผมอยู่นะ”

นายธนพัฒน์ กว่าวด้วยว่า จากนั้นแฟนก็กลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ ตนก็คอยเฝ้าอยู่ตลอด จนกระทั่งวันที่แฟนเสียชีวิต ตนช่วยพาแฟนไปเข้าห้องน้ำ แต่อยู่ดีๆ เขาก็ช็อกหมดสติตนก็รีบตะโกนเรียกพยาบาลให้มาช่วยพอหมอเข้ามาดูและถามตนกับพี่สาวของแฟนว่า “ถ้าจะให้ยื้อชีวิตต่อ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ผู้ป่วยจะไม่รับรู้อะไรแล้ว และเขาจะทรมาน” พี่สาวของแฟนจึงตัดสินใจไม่ยื้อต่อ ปล่อยให้เขาจากไปอย่างไม่ทรมาน

“ผมไม่คิดว่าแฟนจะจากไป ไม่ทันได้บอกลา แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน คอยดูแลทำให้ทุกอย่าง กอดร้องไห้มาด้วยกัน ถ้าตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างๆ อยากจะบอกว่าให้รอนะ จะตามไปอยู่ด้วย ในชีวิตนี้ก็มีเขาคนเดียว เป็นที่สุดในชีวิตแล้ว ความทรงจำดีๆ อยู่ในส่วนลึกของหัวใจอยู่แล้ว” นายธนพัฒน์ กล่าวปิดท้าย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ