หนุ่มกลุ้มใจ ใช้ชีวิตอย่างดีต่อสุขภาพ แต่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แพทย์เผยนอกจากปัญหาทางร่างกายแล้ว จิตวิทยายังเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถทางสรีรวิทยาของมนุษย์อีกด้วย

ดร.เฉิง เว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะชาวไต้หวัน เล่าถึงกรณีคนไข้ชายอายุ 30 ปีที่มาที่คลินิกเพราะปัญหาทางเพศ หลังจากถามอย่างละเอียดหมอก็รู้ว่า ก่อนหน้านี้คนไข้เป็นโสดมา 1 ปีหลังจากเลิกลากับแฟนคนเก่า และปัจจุบันเพิ่งมีแฟนใหม่ แต่เรื่องเซ็กส์ระหว่างทั้งคู่กลับไม่ราบรื่น

คนไข้ชายบอกถึงความกังวลว่า การแข็งตัวของ “น้องชาย” ช้ามากๆ ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เมื่อพยายามจนสำเร็จและตั้งใจจะมีเซ็กส์ จู่ๆ น้องชายก็ล้มลงทันทีอีกครั้ง อาการนี้คงอยู่เป็นเวลา 3 เดือนและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น คนไข้ยืนยันด้วยว่า เขาไม่เคยมีปัญหานี้เมื่อตอนที่ยังรักกับอดีตแฟนสาว นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่มีพฤติกรรมรักสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

และจู่ๆ คนไข้ก็ถามหมอว่า “ผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศได้ไหม” หมอได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสับสนมาก คนไข้จึงอธิบายต่อว่า “เพราะตอนที่ผมมีเซ็กซ์ครั้งแรกกับแฟนคนปัจจุบัน เธอถามว่า ‘คุณเข้ามาหรือยัง?’ ผมพูดไม่ออกเลย”

คำถามที่เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ได้คิดอะไรของแฟนสาวในครั้งนั้น ทำให้คนไข้คิดว่า “เด็กน้อย” ของเขายังเล็กเกินไป ดังนั้น แฟนใหม่ของเขาจึงไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อเริ่มมีเซ็กซ์กัน และความคิดนั้นค่อยๆ สร้างความรู้สึกต่ำต้อยจนนำไปสู่อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศดังเช่นปัจจุบัน

เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดหมอจึงอธิบายว่า เมื่อผู้ชายเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การแข็งตัวของอวัยวะเพศจะไม่เหมือนกับของวัยรุ่น ที่เพียงแค่สัมผัสหรือคิดเรื่องเพศก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่มันต้องการการกระตุ้นมากพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ แต่ละคนยังมีความชอบทางเพศเป็นของตัวเอง หาก “คู่นอน” ไม่สามารถประสานกันได้ดี ก็จะส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย อีกทั้งในระยะยาวยังจะส่งผลต่อสภาพจิตใจและภาวะเจริญพันธุ์ทางกายด้วย

ดร. เฉิง เว่ยหมิง แนะนำว่าการสื่อสารที่ดี และการแลกเปลี่ยนความต้องการอย่างตรงไปตรงมา ที่จะทำให้ทั้งคู่บรรลุพฤติกรรมทางเพศตามรสนิยมและมีความสุขร่วมกัน ทั้งนี้ สำหรับผู้ชายที่พบอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเนื่องจากปัญหาทางจิตใจ อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางจิตวิทยาร่วมกับการรักษาทางการแพทย์