หนุ่มเครียดจัด เงินฝากถูกถอนจากบัญชีหายปริศนา 25 ล้านบาท ร้องธนาคาร ปัดรับผิดชอบ

Home » หนุ่มเครียดจัด เงินฝากถูกถอนจากบัญชีหายปริศนา 25 ล้านบาท ร้องธนาคาร ปัดรับผิดชอบ



หนุ่มชาวจีนถึงกับเครียดจัด กินข้าวอยู่ดีๆ เงินฝากถูกถอนจากบัญชีหายปริศนา สูญเงินกว่า 25 ล้านบาท เหลือเงินติดตัวแค่ 3,300 บาท ธนาคารมีท่าทีปัดความรับผิดชอบ

เว็บไซต์ CTWANT รายงานกรณีช็อกที่เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่ง แซ่เจิ้ง อาศัยอยู่ในเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน หลังจากที่เขามีอันต้องชะตาพลิกผัน เปลี่ยนจากชายผู้มั่งคั่งกลายเป็นยาจกในพริบตา เมื่อตัดสินใจนำเงิน 6 ล้านหยวนหรือราว 29 ล้านบาท ไปฝากไว้กับธนาคารเมื่อ 7 ปีก่อน และแม้เขาจะมาขอความช่วยเหลือจากธนาคารทันทีที่พบความผิดปกติ ท่าทีไร้ความรับผิดชอบของธนาคารกลับทำให้เขารู้สึกรับไม่ได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่นายเจิ้งได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากธนาคารไว้ เพื่อจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท พร้อมนำ USBKey ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์เข้ารหัสความปลอดภัยมาใช้ เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยหลังจากที่เขาเสร็จธุระกับธนาคาร นายเจิ้งก็ออกไปทานมื้อกลางวัน โดยไม่คาดคิดว่าช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีจะทำให้เกิดเหตุช็อกขึ้น

ภาพประกอบ

โดยระหว่างที่เขานั่งกินข้าว ก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากธนาคาร ว่ามีการใช้เงินจำนวน 20,000 หยวนหรือราว 97,000 บาท จากบัตรที่เพิ่งเปิดใหม่จากธนาคาร ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอะไรเพราะนึกว่าเป็นข้อความหลอกลวง หรือข้อความสแปม แต่กลายเป็นว่า ภายใน 15 นาที เขาได้รับข้อความแบบนี้ติดต่อกันมากกว่า 200 ข้อความ แต่ละข้อความแสดงการใช้เงินไปครั้งละเกือบ 100,000 บาท

เมื่อนายเจิ้งเห็นดังนั้นจึงรู้สึกว่ามันผิดปกติ เขาจึงรีบโทรฯ ไปหาฝ่ายบริการลูกค้าของธนาคาร เพื่อตรวจสอบยอดเงินของเขา ก็พบว่ามียอดการใช้จ่ายสะสมเป็นเงิน 5.285 ล้านหยวนหรือราว 25 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกเพียงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และแนะนำให้เขารีบไปที่ธนาคารเพื่อแจ้งเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน แต่สุดท้ายนายเจิ้งก็เหลือเงินติดบัญชีเพียง 690 หยวนหรือราว 3,300 บาทเท่านั้น

นายเจิ้งยังเล่าอีกว่า ทางธนาคารไม่สามารถหาสาเหตุได้ และขอให้เขากลับบ้านไปรอฟังข่าว แต่หลังผ่านไปกว่า 10 วัน นายเจิ้งก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคาร เมื่อเขากลับมาที่ธนาคารอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ยังมีท่าทีราวกับธนาคารไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

ภาพประกอบ

ด้านทางธนาคารให้คำอธิบายกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทางธนาคารมีการจัดตั้งทีมสืบสวนเรื่องนี้ทันทีที่เกิดเหตุ และพบว่าเงินถูกใช้ไปกับบริษัทแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ โดยพวกเขาเชื่อว่า นายเจิ้งมีความสัมพันธ์เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทนี้ จึงมองว่าเป็นการใช้จ่ายตามปกติ

อย่างไรก็ตาม นายเจิ้งปฏิเสธไม่รู้จักกับบริษัทดังกล่าวและย้ำว่าเขาไม่เคยเกี่ยวข้องทางธุรกิจกัน สุดท้ายเขาร้องขอให้ธนาคารคืนเงินโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นฝ่ายชดเชยเงิน 6 ล้านหยวนคืนแก่เขา นอกจากนี้ทางตำรวจได้เข้ามาสอบสวน พบว่าเงินของนายเจิ้งถูกถ่ายโอนไปยังบัญชีของธนาคารอื่น และได้ทำเรื่องอายัดบัญชีไว้แล้ว แต่ยังเป็นปัญหาอยู่ว่าเงินที่ถูกเอาไป จะสามารถนำกลับคืนมาได้หรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ